ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน

ประวัตินักกีฬาวอลเลย์บอลดังๆ ของไทย

ในการแข่งขันวอลเลย์บอลนั้นจะมีอยู่คนหนึ่งที่ใส่ชุดสีสันแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่น ๆ ในทีม และมักจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาเพื่อเล่นเกมรับเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือลิเบอโร หรือตัวรับอิสระ ซึ่งผู้เล่นในตำแหน่งนี้ไม่จำเป็นต้องมีส่วนสูงมากนัก แต่ต้องมีความคล่องตัว และต้องมีการรับลูกตบที่ยอดเยี่ยม โดยวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปอ่านบทความ ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน ซึ่งเธอจะเก่งกาจแค่ไหนถึงกลายเป็นหนึ่งในตำนานผู้เล่นของเมืองไทยได้ก็ลองมาดูกันต่อได้เลย

ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน 1

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ วรรณา บัวแก้ว กันก่อนดีกว่า ปัจจุบัน นา อายุ 42 ปี ส่วนสูง 172 ซม. น้ำหนักประมาณ 61 กก. กระโดดตบสูง 292 กระโดดบล็อก 277 ซม. เคยเล่นในตำแหน่งตัวรับอิสระ

เรื่องในวัยเยาว์ของ วรรณา บัวแก้ว แฟน ๆ วอลเลย์บอลน่าจะเคยได้เห็นได้อ่านผ่านตากันมาบ้างก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งครั้งนี้เราจะมาเริ่มรายละเอียดตรงจุดที่ นา ได้กลายเป็นผู้เล่นคนไทยคนแรก ๆ ซึ่งมีโอกาสบินไปโลดแล่นยังลีกต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นที่อาเซอร์ไบจาน หรือประเทศอิตาลีอาเซอร์ จนย้อนกลับมาที่สโมสรไทยแลนด์ลีกในช่วงท้าย ๆ อาชีพอีกครั้งตอนประมาณฤดูกาล 2014 – 2015 กับสโมสร ไอเดียขอนแก่น และในฤดูกาลนั้นก็ยังมีเพื่อน ๆ ร่วมทีมชาติไทยทั้ง วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ ซึ่งกลับมายังสโมสร นครราชสีมา และ ปลื้มจิตร์ ถินขาว ที่ลงเล่นให้กับสโมสร บางกอกกล๊าส อีกด้วย

ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน 2

เมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างเป็นใจ วรรณา บัวแก้ว ซึ่งตอนนั้นอยู่กับสโมสรขอนแก่นสามารถพาทีมคว้าอันดับ 3 ได้ทั้งในวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก และซูเปอร์ลีก ก็ตัดสินใจย้ายไปหาความท้าทายใหม่ยังลีกต่างประเทศกับสโมสรอาเซอร์เรล บากู ในประเทศอาเซอร์ไบจาน พร้อม ๆ กับมือเซตทีมชาติไทยอย่าง นุศรา ต้อมคำ โดยในปีที่นักตบลูกยางสาวไทยทั้ง 2 คนย้ายไปนั้น ช่วยให้ทีมก็จัดแชมป์ลีกมาได้จนสำเร็จ จึงทำให้ทั้งคู่ได้แชมป์ตั้งแต่ปีแรกที่ไปลงเล่นเลย

พอหลังจากจบโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทยเมื่อปี 2016 วรรณา บัวแก้ว ก็ตัดสินใจอำลาทีมชาติ ซึ่งน่าเสียดายเพราะเจ้าตัวไม่สามารถทำความฝันที่อยากจะไปโลดแล่นในโอลิมปิกเกมส์ให้เป็นจริงได้ โดยทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในนามทีมชาติของ นา ก็คือ เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2016 รอบสุดท้าย แต่ต่อมาเธอก็ได้ผันตัวไปเป็นทีมงานผู้ฝึกสอนของทีมชาติไทย ซึ่งตอนนั้นก็เป็นช่วงที่ ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หรือ โค้ชด่วน คุมทีมชาติแล้ว โดยผลงานของรายการเอวีซี คัพ 2016 ณ ประเทศเวียดนามนั้น นักตบลูกยางของเราก็สามารถจบการแข่งขันได้ในอันดับที่ 3

ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน 3

ถึงแม้ วรรณา บัวแก้ว จะเลิกเล่นให้กับทีมชาติไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังคงเดินทางในวอลเลย์บอลสายอาชีพอยู่ โดยฤดูกาล 2016 – 2017 เธอได้บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปลงเล่นในลีกประเทศเยอรมัน กับสโมสร อัลลิอันซ์ สตุตการ์ต โดยทีมโชว์ฟอร์มเทพเอาชนะแชมป์เก่าในรายการ ซูเปอร์ คัพ ก่อนเปิดฤดูกาลได้สำเร็จ ส่วนผลงานในลีกก็ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นเมื่อ นา เข้ามาเสริมเกมรับให้แน่นยิ่งขึ้น ทำในให้ฤดูกาลปกติ สตุตการ์ต เอาชนะไปทั้งหมด 17 ครั้ง แพ้ 5 ครั้ง จบเป็นอันดับ 2 จาก 12 ทีม หลังจากนั้นพอทีมเข้ารอบเพลย์-ออฟ ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งในรอบก่อนรองชนะเลิศไปได้ ส่วนรอบรองชนะเลิศก็ต้องไปวัดกับแชมป์เก่าอย่าง เดรสเด็น ถึงเกมที่ 1 นั้นสโมสร สตุตการ์ต ของ วรรณา บัวแก้ว จะแพ้ไปก่อน แต่สุดท้ายก็ยังพลิกก็กลับมาเอาชนะได้ จึงได้ไปต่อยังรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเพราะในรอบนี้ สตุตการ์ต ก็แพ้ให้กับ ชเวริน ทำให้ได้เพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์ลีก

ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน 4

ส่วนผลงานของสโมสร สตุตการ์ต ในรายการ ซีอีวี คัพ หรือการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรยุโรป ก็สามารถเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้ แต่สุดท้ายก็พลาดท่าให้กับ สโมสร คาซัลมัจจิโอเร จากเมืองมักกะโรนี ซึ่งพอ วรรณา บัวแก้ว ในวัย 36 เริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับการเล่นในลีกต่างแดนแล้ว ก็ได้บินกลับมายังประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง และลงเล่นให้กับสโมสร บางกอกกล๊าส

เมื่อ วรรณา บัวแก้ว ได้กลับมาเล่นให้กับสโมสร บางกอกกล๊าส ในวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกฤดูกาล 2017 – 2018 ก็ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ช่วงแรกจะทำผลงานไม่ค่อยดีเท่าไร แต่สุดท้ายทีมก็ยังสามารถจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 และคว้ารองแชมป์ซูเปอร์ลีก 2018 แถมมันยังเป็นรายการสุดท้ายของ นา กับอาชีพวอลเลย์บอลอีกด้วย เพราะหลังจากนั้น บางกอกกล๊าส ก็ตัดสินใจยุบสโมสรทิ้ง

ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน 5

เมื่อเส้นทางหนึ่งจบไป เส้นทางต่อไปของ วรรณา บัวแก้ว ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งเจ้าตัวได้เปลี่ยนจากผู้เล่นมารับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนเต็มตัวกับสโมสร นครราชสีมา ในฤดูกาล 2018 – 2019 แทน และถึงจะพึ่งจะเข้ามารับตำแหน่งนี้เป็นฤดูกาลแรก แต่เธอก็ช่วยทีมให้โชว์ผลงานออกมาได้อย่างตื่นตาตื่นใจ โดยสามารถเก็บชัยชนะได้ติดต่อกันถึง 16 เกมทั้งฤดูกาล จัดแชมป์วอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกมาได้แบบไร้พ่าย ซึ่งรวมแล้วตอนนั้นก็นับเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ของ นครราชสีมา อีกด้วย และจากสถิติทำให้ นา กลายเป็นโค้ชหญิงคนแรกของประเทศไทยที่คว้าแชมป์ไทยแลนด์ลีกมาครองได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็กลับไปเป็นหนึ่งในทีมงานของวอลเลย์บอลหญิงไทยเพื่อคอยช่วยเหลือในทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ พอหมดช่วงทีมชาติ นา ก็หันกลับมาคุมสโมสรน้องใหม่อย่าง ไดมอนด์ ฟู้ด วีซี

ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน 6

เมื่อ วรรณา บัวแก้ว มาคุมสโมสร ไดมอนด์ ฟู้ด วีซี ก็สามารถพาคว้าแชมป์ในรายการโปร ชาลเลนจ์ 2019 สำเร็จทันที ก่อนที่ทีมจะเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยแลนด์ลีกในฤดูกาล 2020 ได้อีกด้วย แต่พอได้ขึ้นมาเล่นยังลีกสูงสุดแล้วผลงานของ ไดมอนด์ ฟู้ด วีซี กลับไม่ค่อยดีด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวของนักกีฬาที่น้อยเกินไป หรือการแข่งขันหลายรายการมากกว่าที่เคย จึงทำให้ทีมไม่ลงตัว และไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นต่อในรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้

เรื่องธุรกิจส่วนตัว นา ได้นำทุนที่เก็บเอาไว้มาเปิดร้านกาแฟเป็นของตนเอง แต่ก็ยังคงทำงานอยู่ในวงการวอลเลย์บอลด้วยเช่นกัน โดยเจ้าตัวรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้กับนักกีฬาวอลเลย์บอลสาวไทย ซึ่งตอนนี้น้อง ๆ ที่เคยเป็นดาวรุ่งในยุคของตนเองปัจจุบันก็ได้รับประสบการณ์ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และพร้อมสานต่ออนาคตให้กับทีมชาติไทยแล้ว

ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน 7

ส่วนตัว วรรณา บัวแก้ว ยอมรับถึงฝีมือของทีมชาติชุดนี้มาก ๆ แถมยังบอกอีกว่าน้อง ๆ จะเก่งกว่ายุคของ 7 เซียนแน่นอน เพราะวงการวอลเลย์บอลตอนนี้ได้พัฒนาไปไกลกว่าสมัยก่อน อีกทั้งสรีระ ส่วนสูง และความคล่องตัวของเด็กรุ่นใหม่ก็ยังดีกว่า ทำให้เวลาขึ้นบล็อกก็สามารถป้องกันได้เหนียวแน่นกว่าด้วย จึงอยากที่จะเห็นนักตบลูกยางไทยเข้าไปโลดแล่นในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์สักครั้ง เพราะตนเองเชื่อว่านักวอลเลย์บอลทีมชาติไทยชุดนี้ยังคงพัฒนาฝีมือขึ้นได้อีก ทั้งนี้ก็ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ระดับโลก และหมั่นฝึกซ้อมอยู่เสมอ หาจุดแข็งจุดอ่อนให้เจอเพื่อมาปรับปรุงแก้ไข หากทำได้เวทีโอลิมปิกรอบสุดท้ายก็คงอยู่อีกไม่ไกล

และนี่ก็คือบทความ ประวัติ ลิเบอโร วรรณา บัวแก้ว สุดยอดตัวรับในยุค 7 เซียน โดยในช่วงท้าย ๆ ของ นา กับการเล่นวอลเลย์บอลอาชีพนั้น เธอยังคงทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี แสดงความเก๋าเกม และโชว์ประสบการณ์เกมรับซึ่งได้จากการไปลงเล่นยังลีกต่างประเทศให้น้อง ๆ ทุกคนในทีมได้เห็น อีกทั้งยังคอยสอนพร้อมแนะนำสิ่งต่าง ๆ ให้คำปรึกษาทั้งเรื่องใน และเรื่องนอกสนาม สมกับเป็นรุ่นพี่ที่น่าเคารพของเด็กรุ่นใหม่จริง ๆ ส่วนผลงานที่ฝากเอาไว้ในทีมชาติไทยของเจ้าตัวก็คือ แชมป์เอเชีย 2 สมัย, อันดับ 4 เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2012, แชมป์เอวีซี คัพ 2012 และแชมป์ซีเกมส์ อีกหลายสมัยด้วยกัน

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG