ชั่วโมงนี้กระแสของการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2023 กำลังมาแรงสุด ๆ สำหรับแฟน ๆ ลูกยางที่ติดตามกีฬาชนิดนี้อย่างใกล้ชิดมาตลอดก็คงพอทราบกฎกติกาของทัวร์นาเมนต์อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นคนดูหน้าใหม่อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ หรือรู้ข้อมูล หรือรายละเอียดของรายการ VNL 2023 สักเท่าไร ดังนั้นเราจึงอยากชวนเพื่อน ๆ มาอ่านบทความ รวม 10 เรื่องวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกที่น่าสนใจสำหรับผู้ชมทุกท่าน เพราะเมื่อถึงเวลาลุ้นหน้าจอ จะได้ลุ้นกันแบบสนุกมากยิ่งขึ้น
รายการวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2023 ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่มีการตอบรับอย่างล้นหลาม และกระแสดีมาก ๆ รวมถึงวิธีการรับชมก็ง่ายขึ้น แถมยังสามารถติตามดูได้หลากหลายช่องทาง ซึ่งถ้าใครพึ่งเข้ามาสัมผัสกับวงการวอลเลย์บอล หรือเป็นแฟน ๆ หน้าใหม่อาจจะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าทัวร์นาเมนต์ VNL 2023 แข่งกันเพื่ออะไร หรือแต่ละทีมทำไมถึงได้สิทธิ์มาร่วมรายการ วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลทั้ง 10 ข้อแบบเข้าใจง่าย ๆ มาอธิบายให้เพื่อน ๆ อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย
1. วอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก คืออะไร
แรกเริ่มเดิมที Volleyball Women’s Nations League หรือ VNL เป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้ชื่อว่า เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ให้เพื่อน ๆ ลองนึกภาพว่ามันคล้ายกับรายการฟุตบอลโลกนั่นเอง ซึ่งวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกถูกจัดขึ้นโดยสหพันธ์วอลเลย์บอลระหว่างประเทศ หรือ FIVB และแข่งขันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 จนถึงปี ค.ศ. 2017 ต่อมาพวกเขามีแนวคิดใหม่ ๆ อยากให้สนามทั่วโลกได้มีส่วนร่วม สุดท้ายจึงปรับชื่อรายการเป็นวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก เริ่มครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2018 มีแข่งขันกันทุกปีในระบบ 16 ทีม ซึ่งเกือบทุกทีมจะพบกันหมด โดยแยกเป็นประเภทชาย และประเภทหญิง
2. แต่ละนัดของวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกคิดคะแนนแบบไหน
ถ้าใครไม่เคยดูวอลเลยบอลอาจจะงงกับการให้คะแนนได้ ยิ่งถ้าเป็นแฟนฟุตบอลมาก่อนเราต้องบอกว่าการคิดคะแนนจะไม่เหมือนกัน เพราะแต่ละเซตของวอลเลย์บอลนั้นมีความสำคัญมาก ๆ อย่างเช่นถ้าทีมชนะ 3 – 0 หรือ 3 – 1 เซต จะได้ 3 คะแนน ทีมชนะ 3 – 2 เซต จะได้ 2 คะแนน ทีมแพ้ 2 – 3 เซต จะได้ 1 คะแนน ทีมแพ้ 1 – 3 เซต หรือ 0 – 3 เซต จะไม่ได้คะแนน
3. ทำไมวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกต้องเก็บสะสมคะแนน
ที่ต้องสะสมคะแนนในทุกนัดก็เพราะเมื่อทัวร์นาเมนต์รอบแรกจบลง ก็จะหา 8 ทีมสุดท้ายตามลำดับคะแนน เพื่อเข้าสู่รอบ Final ต่อไป โดยปีนี้จะต้องไปแข่งขันที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าภาพ และทั้ง 8 ทีมจะลงสนามไขว้อันดับกันแบบแพ้คัดออก ดังนี้ อันดับ 1 พบกับ อันดับ 8, อันดับ 2 พบกับ อันดับ 7, อันดับ 3 พบกับ อันดับ 6, และ อันดับ 4 พบกับ อันดับ 5 ส่งผลให้หลาย ๆ ชาติจึงต้องพยามเก็บคะแนนไว้มากที่สุดเพื่อจะเลี่ยงพบกับทีมเก่งกว่าในช่วงต้น ๆ ของรอบสุดท้าย
4. หากอยู่ในอันดับสุดท้ายมีสิทธิ์ตกชั้น และปีหน้าจะไม่ได้ลงแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก
สำหรับรายการ VNL นั้น เมื่อจบทัวร์นาเมนต์จะต้องมีหนึ่งทีมตกชั้นไปเล่นใน แชลเลนเจอร์คัพ หรือ Challenger Cup แทน ส่วนทีมแชมป์ของ แชลเลนเจอร์คัพ จะถูกเลื่อนขึ้นมาร่วมเล่นรายการเนชั่นส์ลีกแทน (ปีนี้ทีมชาติโคเอเชียได้ขึ้นมา) ถ้าเปรียบเทียบกับฟุตบอลก็คือ ทีมตกชั้นก็จะร่วงลงไปเล่นในดิวิชั่นที่ต่ำกว่านั่นเอง
5. มีสิทธิพิเศษจำนวน 12 ทีม ที่ไม่ต้องตกชั้นแม้จบในอันดับสุดท้ายในวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก
เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขที่หลายท่านอาจจะไม่ทราบ เนื่องจากวงการวอลเลย์บอลโลกนั้นมีอยู่ทั้งหมด 12 ชาติ คือ สหรัฐอเมริกา, บราซิล, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อิตาลี, เซอร์เบีย, ตุรกี, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, รัสเซีย และไทย โดยทั้ง 12 ทีมนี้เป็นชาติที่เริ่มต้น และให้ความร่วมมือ พร้อมก่อตั้งรายการวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกขึ้นมากับ FIVB จึงมีสิทธิพิเศษไม่ต้องตกชั้นไปเล่นยัง แชลเลนเจอร์คัพ ตรงจุดนี้หากมี 1 ใน 12 ทีมหล่นลงไปอยู่อันดับสุดท้ายของตารางตอนจบทัวร์นาเมนต์ ทีมที่ตกชั้นก็จะถูกเลื่อนขึ้นมาเรื่อย ๆ แทน
ซึ่งชาติทั้งหมดข้างต้นที่กล่าวมาต้องแลกกับการทำตามเงื่อนไขของ FIVB หลาย ๆ อย่าง เช่น ทุก ๆ ปี ต้องส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน หากย้อนกลับไปช่วงปี 2021 จะเจอกับเหตุการณ์ที่ทีมชาติไทยติดโควิดเกือบยกทีม โดยสุดท้ายเราก็ต้องใช้ชุด 7 เซียนไปลงสนามแทน ส่วนข้อดีก็คืออย่างน้อยรายการ VNL ก็มีชาติชั้นนำในวงการวอลเลย์บอล 12 ทีมเข้าร่วมแข่งขันทุกปี แต่พอทีมรัสเซียโดนแบนขึ้นมา ล่าสุดจึงเหลือเพียงแค่ 11 ทีมเท่านั้น
6. ทุกแมตช์ของวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกมีผลกับอันดับโลก
อีกหนึ่งความสำคัญสำหรับรายการ VNL ก็คือผลแพ้ชนะของทุกทีมจะนำไปสู่การคิดคะแนน FIVB World Ranking เพื่อจัดอันดับโลก อันนี้ก็คล้ายกับฟุตบอลเช่นกัน หากทีมที่มีอันดับสูงกว่าเกิดแพ้ทีมที่มีอันดับต่ำกว่าจะโดนลบถึง 15 คะแนน ส่วนอันดับต่ำกว่าถ้าแพ้อันดับสูงกว่าก็จะลบ 8 คะแนน แต่ถ้าทีมอันดับต่ำกว่าสามารถเอาชนะทีมอันดับสูงกว่า คะแนนก็จะถูกบวกขึ้นมากตามไป โดยอันดับโลก 1 – 24 นั้นจะได้สิทธิ์ไปแข่งขันในวอลเลย์บอลรอบคัดเลือกโอลิมปิก ซึ่งทีมชาติไทยก็ได้สิทธิ์นั้นไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึงอันดับโลกยังถูกนับไปใช้จัดทีมวางกับรายการต่าง ๆ ด้วย
7. วอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกสามารถเปลี่ยนรายชื่อนักกีฬาได้ในแต่ละสัปดาห์
ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ VNL ทั้ง 16 ทีมจำเป็นต้องส่งรายชื่อผู้เล่นให้ทาง FIVB 30 คน โดยแต่ละสัปดาห์จะเลือกส่งนักตบลูกยางได้จำนวน 14 คน และถ้าอยากจะปรับเปลี่ยนตัวนักกีฬาใหม่ ก็ต้องรอในสัปดาห์ถัดไป ส่งผลให้ทุกคนต้องเร่งฟอร์มเพื่อทีมติดชาติในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป และคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ติดทีมในสัปดาห์แรกยังมีโอกาสสอดแทรกเข้ามาสู่ทีมได้ อย่างเช่น ณัฐธิมา กุบแก้ว และ วริศรา สีทาเลิศ ดาวรุ่งที่แฟน ๆ หลายคนพยามผลักดัน ก็สามารถก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทยในรายการนี้ได้ตลอด
8. ยังมีช่องว่างรอบแรกที่ 3 ทีมจะไม่ได้เจอกันในวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก
ถึงทัวร์นาเมนต์ VNL รอบแรกจะมีทั้งหมด 16 ชาติเข้าร่วมรายการ และลงแข่งขันทั้งหมด 3 สนาม รวมแล้ว 12 นัด แต่จะมีทีมที่จะไม่ได้เจอกันทั้งหมด 3 ทีม ตัวอย่างเช่นใน VNL 2023 ครั้งนี้ ไทยจะไม่ได้พบกับจีน โดมินิกัน และบัลแกเรีย เหตุผลเพราะหากพบกันหมดจะใช่เวลานานเกินไป ทำให้อาจจะไปชนกับการแข่งลีกอาชีพของแต่ละประเทศ รวมถึงรายการสำคัญระดับทวีป หรือระดับภูมิภาคอีกด้วย
9. ในวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2023 ประเทศไทยจะได้จัดการแข่งขันสัปดาห์ที่ 3
VNL 2023 นั้นแข่งขันกันทั้งหมด 3 สัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่ 1 เริ่มต้นในประเทศตุรกี สัปดาห์ที่ 2 ในประเทศบราซิล ส่วนสัปดาห์ที่ 3 ในประเทศไทย ซึ่งพอจบรอบแรกจะมีการรวมคะแนนทั้งหมด และ 8 อันดับแรกจะไปแข่งขันต่อในรับสุดท้ายในประเทศเจ้าภาพอย่างสหรัฐอเมริกา
10. ถ้าประเทศอื่น ๆ ต้องการร่วมรายการเนชั่นส์ลีกต้องทำเช่นไร
ยกตัวอย่างว่าถ้าหากประเทศเพื่อนบ้านเราเช่น เวียนดนาม อยากเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ VNL ต้องทำอะไรบ้าง ก็ขอตอบว่ายากมาก ๆ หากต้องการเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์นี้ก็ต้องไปเริ่มจากรายการ แชลเลนเจอร์คัพ หรือ VCC ก่อน และต้องเอาชนะจนคว้าแชมป์อย่างเดียวถึงจะมีสิทธิ์ แต่ก็ลำบากพอสมควรเพราะต้องผ่านด่านทีมจากยุโรปเก่ง ๆ อีกหลายชาติ
ทั้งหมดนี้ก็คือบทความ รวม 10 เรื่องวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกที่น่าสนใจสำหรับผู้ชมทุกท่าน เป็นอย่างไรกันบ้างกับความรู้ และความเป็นมาของรายการ VNL ต้องบอกว่ากระแสกำลังแรงสุด ๆ หลังจากจบการแข่งขันสัปดาห์แรกไปแล้ว สาว ๆ ทีมชาติไทยก็ทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว ส่วนในสัปดาห์ต่อไปก็อย่าลืมติดตามเชียร์ และให้กำลังใจพวกเธอกันต่อไปเรื่อย ๆ นะ