เผลอแป๊บเดียวการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกก็เข้าสู่นัดที่ 3 แล้ว โดยแมตซ์นี้สาวไทยจะลงสนามสู้ศึกกับสาวโปแลนด์ ซึ่งก่อนหน้าไทยแพ้มา 1 นัด และชนะ 1นัด ส่วนโปแลนด์กำลังร้อนแรง คว้าชัยมา 2 นัดติด แถมแมตซ์ล่าสุดยังเอาชนะอิตาลีแชมป์เก่าไป 3 – 1 เซต ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างทำให้พวกเขาเหนือกว่าไทยอยู่พอสมควร ดังนั้นเราจึงอยากจะ วิเคราะห์ฟอร์มของทีมชาติไทยกับโปแลนด์ก่อนพบกันในวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2023 ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน
ยังคงอยู่กับรายการวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2023 ในสัปดาห์แรก ณ ประเทศตุกรี ในเกมที่ 3 นี้ทีมชาติไทยต้องเจอกับทีมชาติโปแลนด์ซึ่งมีอันดับโลกสูงกว่า และมีความแข็งแกร่งมาก ๆ ถึงพวกเขาจะไม่มีผู้เล่นตัวหลักอย่าง มัลวีนา สมาแช็ก แต่ก็มี มักดาเลนา สตีเซียก ดาวรุ่งพุ่งแรงในตำแหน่งบีหลัง โดยเธอนั้นสูงถึง 203 ซม. แถมยังเป็นนักกีฬาที่ทำคะแนนได้มากอีกด้วย ทางด้านสาวไทยที่พึ่งคว้าชัยเหนือแคนาดาแบบไม่เสียเซตก็กำลังมีความมั่นใจ หากโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเหมือนกับเกมที่แล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนสุดท้ายผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรก็ต้องไปรอลุ้นกันในสนาม ซึ่งเราคาดว่ามันคงเป็นเกมที่สนุกตื่นเต้นสำหรับแฟน ๆ ลูกยางแน่นอน
ย้อนกลับไปตอนสาวไทยพบกับโปแลนด์ครั้งล่าสุด เราพ่ายเขาลาดลอยไปถึง 0 – 3 เซต ด้วยคะแนน 17 – 25, 17 – 25 และ 17 – 25 แต้ม เนื่องจากตีไม่ค่อยผ่านบล็อกของโปแลนด์ สุดท้ายจึงไม่สามารถทำเกมรุกได้แบบที่หวัง
โปแลนด์ เป็นทีมที่รั้งอยู่ในอันดับ 10 ของโลก ยังคงมี สเตฟาโน ลาวารินี ทำหน้าที่โค้ชเช่นเคย ถึงรอบนี้จะไม่มี มัลวีนา สมาแช็ก แต่ผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็ยังอยู่กันครบ เช่น โอลิเวีย โรซานสกี, มาเรีย สเตนเซล และเซตเตอร์ตัวเก่งอย่าง เวเนอร์ก้า คาตาร์ซิน่า ซึ่งถือเป็นคนคุมจังหวะเกมของทีม แถมยังใช้ มักดาเลนา สตีเซียก กับ แอ็กนีสซก้า คาโคเลฟสกา 2 ตัวบล็อกสุดอันตรายที่มีส่วนสูงกว่า 2 เมตรทั้งคู่ด้วย
สำหรับฟอร์มของทีมชาติโปแลนด์ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมสุด ๆ เพราะตั้งแต่ช่วงปี 2018 พวกเขาก็เก็บคะแนนมาเรื่อย ๆจนเลื่อนอันดับขึ้นไปติดท็อป 10 ของวงการวอลเลย์บอลโลกได้สำเร็จ จุดเด่นของโปแลนด์คือความสูงใหญ่ของผู้เล่น และเกมบล็อกซึ่งกดคู่ต่อสู้แบบอยู่หมัด ถึงนัดแรกจะดูยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไร แต่ก็ยังคว้าชัยเหนือแคนาดาไป 3 – 2 เซต โดยผู้เล่นที่ต้องระวังมาก ๆ ก็คือ โอลิเวีย โรซานสกี ในตำแหน่งหัวเสา กับดาวรุ่งวัย 22 ปี อย่าง มักดาเลนา สตีเซียก ตำแหน่งบีหลัง เนื่องจากเกมกับแคนาดาทั้งคู่ทำคะแนนรวมกันไปถึง 36 คะแนน และในนัดต่อมาที่พบกับอิตาลีก็ยังสามารถพาทีมเอาชนะแชมป์เก่าได้อีก
พูดถึง มักดาเลนา สตีเซียก เจ้าของส่วนสูง 203 ซม. คนนี้ มีจุดกระโดดตบอยู่ที่ 312 ซม. และกระโดดบล็อกอยู่ที่ 295 ซม. โดยการแข่งขันเนชันส์ลีก 2023 ครั้งนี้เจ้าตัวทำผลงานได้ปังสุด ๆ ตอนขึ้นตีก็สูงกว่าบล็อกฝั่งตรงข้าม และตีคล่อมบล็อกอีกต่างหาก มันจึงทำให้ยากมาก ๆ สำหรับการป้องกัน ส่วนลูกเสิร์ฟก็โหดใช่เล่น เพราะมันหนักจนคู่ต่อสู้กระเด็นมาแล้ว นอกจากมีดีในเกมรุก เกมรับอย่างการบล็อกก็สูง และแข็งแกร่งเกินต้านทาน ถ้าผ่านเธอไม่ไปได้รับรองเลยว่างานเข้าทีมชาติไทยแบบไม่ต้องสงสัย
นอกจากตำแหน่งบีหลังอย่าง มักดาเลนา สตีเซียก ที่น่ากลัวแล้ว โปแลนด์ยังมี โอลิเวีย โรซานสกี ในตำแหน่งหัวเสาที่เล่นรูปแบบยกสูงได้ดีเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ไทยต้องเจอศึกหนัก เผลอ ๆ โปแลนด์ชุดวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2023 อาจจะอันตรายกว่าอิตาลีด้วยซ้ำ เพราะอาวุธของพวกเขาหลากหลาย และความสูงก็เป็นต่อสาวไทยอยู่หลายขุม ถ้าไม่สามารถทำให้นักกีฬาของเขากดดันจนทำเสียไปเอง ก็ต้องหาหนทางอื่น ๆ เพื่อลดระดับความต่างชั้นลง
มาต่อกันที่ทีมชาติไทยบ้าง สำหรับแมตซ์แรกที่เจอกับอิตาลีถึงจะแพ้ก็ถือว่าทำผลงานได้ดี ส่วนนัด 2 ที่พบกับแคนาดานี่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม แม้ผู้เล่นตัวหลักจะบาดเจ็บจากนัดแรกจนไม่สามารถลงสนามได้ แต่สาวไทยยังมี วิภาวี ศรีทอง ซึ่ง มด ลงมาทดแทนตำแหน่งของ เพียว ได้เป็นอย่างดี มีความมั่นใจ และทำแต้มไปถึง 18 คะแนน จะนับว่าเป็นเกมแจ้งเกิดในรายการวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกของเธอก็ได้ โดยแฟน ๆ ลูกยางก็ต้องรอชมว่า เจ้าตัวจะยังเป็นที่ไว้ใจ และลงเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องในนัดที่ 3 ไหม ซึ่งฟอร์มปัง ๆ แบบนี้เกิดได้ส่วนหนึ่งเพราะ โค้ชด้วน ใช้เกมรุกหลากหลายกว่านัดแรก มีตัวเลือกในการโจมตีเพิ่ม รวมถึงเกมรับก็ยกระดับขึ้นมามาก แต่กับโปแลนด์ที่เน้นนักกีฬาสูงใหญ่ และมีมาตรฐานกว่า ทีมชาติไทยจะต้องทำเช่นไรหากเจอกับบล็อกที่แข็งแกร่งราวกับกำแพงเหล็ก
หลังจากนัดที่สาวไทยแข่งขันกับแคนาดาจบลง พวกเธอก็มีเวลาพักไม่ถึงวัน ถึงจะน้อยแต่ก็ดีกว่าสาวโปแลนด์ที่มีเวลาพักประมาณเพียง 21 ชม. ทั้ง 2 ทีมจึงเน้นการฟื้นฟูสภาพร่างกายให้สมบูรณ์มากเท่าที่ทำได้ก่อนจะมาเจอกัน โดยแมตซ์นี้ อัจฉราพร คงยศ น่าจะยังไม่พร้อมเช่นเคย เป็นไปได้ว่าจะต้องส่ง วิภาวี ศรีทอง ซึ่งโชว์ฟอร์มได้ดีลงสนามต่อเนื่องไปก่อน ส่วนผู้เล่นคนอื่น ๆ ในทีมก็ไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ รบกวน สำหรับปัญหาหลัก ๆ ก็คือบอลแรกยังแย่เหมือนเคย แม้นัดกับแคนาดาสาวไทยจะทำได้ยอดเยี่ยมขึ้น แต่ก็ยังมีจุดผิดพลาดให้เห็น ยิ่งโปแลนด์นั้นโหดกว่าแคนาดาเยอะ ถ้าบอลแรกไปถึงตัวเซตไม่ดี ก็ยากที่จะต่อเกมบุกให้มีประสิทธิภาพ อีกอย่างก็คือบอลเสิร์ฟของไทยจะต้องดุกว่านี้
นักตบลูกยางที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นจากนัดที่แล้วอย่าง วิภาวี ศรีทอง น่าจะถูกจับตามองมากขึ้น ส่วนจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นเดิมไหมก็แฟน ๆ วอลเลย์บอลก็ต้องรอดูกัน โดยความเก่งของเธออยู่ที่การเข้าถึงบอลเร็ว และมีความคล่องตัวสูง ซึ่งอาจช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ให้ไทยสูสีขึ้นมาบ้าง หากย้อนกลับไปดูสถิติแล้วจะเห็นว่าทีมชาติไทยยังไม่เคยเอาชนะโปแลนด์ได้เลย นับจริง ๆ ก็ประมาณ 5 ปีเข้าไปแล้ว จะมีก็แค่ทำแต้มใกล้เคียง แต่อย่างไรปัจจุบันสาวไทยก็พัฒนา และแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน แถมแผนการเล่นกับการเข้าทำก็หลากหลายพอจะใช้โจมตีชาติที่มีส่วนสูงมากกว่าเราได้ ถ้าอยากเอาชนะโปแลนด์ สิ่งสำคัญคือการตบผ่านบล็อกสุดเหนียวของพวกเขา หากพูดตรง ๆ ก็คงบอกว่ายากพอสมควร เพราะขนาดอิตาลีที่ว่าแน่ ๆ ยังพ่ายให้โปแลนด์มาแล้ว แต่สุดท้ายเมื่อลงสนามเราก็ต้องสู้ พร้อมพยามให้ถึงที่สุดเพื่อคว้าชัยในนัดนี้ แม้โอกาสในการเก็บแต้มจะน้อยก็ตามที
เป็นอย่างไรกันบ้างกับบทความ วิเคราะห์ฟอร์มของทีมชาติไทยกับโปแลนด์ก่อนพบกันในวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2023 สรุปแล้วฝีมือ ส่วนสูง อันดับโลก และผู้เล่นไทยอาจจะยังเป็นรองโปแลนด์ แต่ต้องบอกว่าชั่วโมงนี้สาวไทยมีความมั่นใจแบบเต็มเปี่ยม เพราะพึ่งเอาชนะแคนาดาแบบไม่เสียเซตมาได้ แถมตัวสำรองอย่าง วิภาวี ศรีทอง ยังโชว์สุดยอดฟอร์มให้แฟน ๆ เห็น แม้โปแลนด์จะเก่งกาจขนาดเอาชนะอิตาลีมาได้ แต่พวกเขาก็พึ่งผ่านการเล่นเกมหนักเพราะต้องลงสนามถึง 4 เซตด้วยกัน ถ้าถึงเวลานักตบลูกยางของเรายังคงร้อนแรง และทำผลงานดีอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าผลการแข่งขันที่คาดหวังเอาไว้อาจจะเป็นไปตามต้องการก็ได้ อย่างไรเพื่อน ๆ ก็อย่าลืมติดตามเชียร์พร้อมส่งกำลังใจให้กับพวกเธอกันด้วยนะ