เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมสำหรับระบบสร้างนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงไทย เพราะวงการนี้มีการแจ้งเกิดของดาวรุ่งจำนวนมาก ทำให้ทุกตำแหน่งมีนักตบลูกยางหน้าใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ตลอดเวลา ส่วนวันนี้เราจะพูดถึงน้อง ๆ สายเลือดใหม่ทั้ง 3 คนคือ ปาย แคบหมู และหยก ซึ่งพวกเธอถูกแฟน ๆ กล่าวถึงเป็นบ่อย ๆ ในช่วงหลัง เพื่อไม่ให้เสียเวลาขอเชิญเพื่อน ๆ ไปพบกับบทความ ส่อง 3 นักวอลเลย์บอลหญิงอายุน้อยที่กำลังถูกจับตามองในปี 2023 กันเลย
1. นภัสสร พุ่มนิล
เริ่มต้นกันที่ นภัสสร พุ่มนิล หรือ ปาย เด็กหญิงอายุ 14 ปี เจ้าของฉายา จูถิง เมืองไทย มีชื่ออยู่ในศึกวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกฤดูกาล 2022 – 2023 ของสโมสรขอนแก่นสตาร์วีซี แม้น้องจะมีอายุเพียง 14 แต่มีความสูงถึง 190 ซม. ซึ่งจริง ๆ เธอก็ไม่ได้พึ่งจะมาโด่งดังเอาตอนนี้ เพราะหากใครติดตามวอลเลย์บอลมาตลอดคงจะได้ยินชื่อเสียงของปายมาบ้างแล้ว และด้วยความเก่งกาจทำให้ปัจจุบันแฟน ๆ ยิ่งมองเห็นอนาคตชัดเจนมากขึ้นว่าวันข้างหน้าเราอาจจะได้นักตบลูกยางที่มีส่วนสูงพอ ๆ กับผู้เล่นจากยุโรปก็ได้ ส่วนเส้นทางของปายจะเป็นอย่างไร ทำไมน้องจึงกลายมาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่โดดเด่นขนาดนี้ก็ลองมาติดตามกันต่อได้เลย
นภัสสร พุ่มนิล เกิดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เริ่มเล่นวอลเลย์บอลตั้งแต่ชั้นอนุบาลที่ลำปลายมาศ ซึ่งเป็นรร.ที่สนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอลอยู่แล้ว และเคยได้รับรางวัลแชมป์วิทยุการบินรุ่นอายุต่ำกว่า 12 ปี อีกทั้งยังมีดาวรุ่งหลายคนจบจากที่นี่เช่น กนกพร แสงทอง ตัวเซตกัปตันทีมชาติไทยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี สุวรรณี เพ็ชรสังหาร ตำแหน่งลิเบอโร่ทีมชาติไทยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี, กัญญาพัชร คุณมาศ ผู้เล่นทรงคุณค่าวิทยุการบิน และ พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ผู้เล่นทีมชาติไทยชุดใหญ่
จุดเด่นของปายคือสามารถกระโดดตบได้ถึง 295 ซม. ซึ่งไม่ยากนักที่จะกระโดดได้สูงขึ้นไปอีกหากอายุมากกว่านี้ และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งขึ้นตามวัย รวมถึงพรสวรรค์ทางด้านวอลเลย์บอลทำให้โค้ชอย่าง โทนี่ อภิรัฐ งามมีฤทธิ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสรขอนแก่นสตาร์วีซี ดึงตัวน้องมาเข้าเรียนในชั้นมัธยมที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทอง และได้ลงแข่งขันในรายการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ถ้วย ก ให้แฟน ๆ ได้เห็นกันไปแล้วด้วย
ถ้าใครกำลังคิดว่าปายมีดีแค่สวนสูงคงต้องบอกว่าคุณคิดผิด เพราะน้องมีทั้งความพยาม ตั้งใจฝึกซ้อม มีพื้นฐานวอลเลย์บอลที่ยอดเยี่ยม บวกกับความสามารถเกินวัยทำให้ดาวรุ่งคนนี้ก้าวข้ามรุ่นขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดกับรุ่นพี่ ๆ ของสโมสรขอนแก่นสตาร์วีซีได้แบบไม่ขัดเขิน ซึ่งภายในทีมก็ยังมีนักกีฬาเก่ง ๆ อย่าง คัทลีย์ ปิ่นสุวรรณ, เอ็มอร พานุสิทธิ์, สุรัสวดี บุญยืน และ ฑิฆัมพร ช้างเขียว ที่จะคอยสอนปายทั้งเรื่องประสบการณ์ การรับมือต่าง ๆ กับการเป็นผู้เล่นมืออาชีพ สุดท้าย นภัสสร พุ่มนิล จะสามารถโลดแล่นอยู่ในวงการวอลเลย์บอลอาชีพ และพัฒนาฝีมือขึ้นอีกแค่ไหน เพื่อน ๆ ทุกคนก็อย่าลืมติดตามพร้อมส่งกำลังใจให้น้องปายกันด้วยนะครับ
2. อชิรญาภรณ์ กำใจบุญ
ต่อมาคนที่ 2 คือ อชิรญาภรณ์ กำใจบุญ หรือ หยก ผู้เล่นตำแหน่งบีหลัง เป็นเด็กจากโรงเรียนบดินทรเดชา ดีกรีนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ตบหนักตบแรง มีการอ่านเกม มีความนิ่งเกินอายุ และมีพัฒนาการสูง ซึ่งเธอนั้นถูกจับตามองมากยิ่งขึ้นหลังจากกดไปถึง 30 แต้ม ในรายการ ปริ๊นเซส คัพ ที่เจอกับมาเลเซีย ทำให้หลายคนลงความเห็นตรงกันว่าหยกคืออนาคตที่จับต้องได้ของทีมชาติไทยชุดใหญ่
อชิรญาภรณ์ กำใจบุญ อายุ 18 ปี สูง 182 ซม. เกิดวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2547 มีไอดอลคือ อัจฉราพร คงยศ นักวอลเลย์บอลทีมชาติรุ่นพี่ โดยหยกเป็นเด็กที่เกิดในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร เจ้าตัวเริ่มเล่นวอลเลย์บอลตั้งแต่สมัยประถมกับโรงเรียนมีนบุรี และได้โค้ชคนแรกเป็นอาจารย์ สมควร ประสิทธิ์นอก ซึ่งคอยสอนเธอให้มีพื้นฐานอันยอดเยี่ยม รวมถึงการตั้งใจฝึกซ้อมทุก ๆ ครั้ง ทำให้หยกประสบความสำเร็จในเวลาต่อมาจากการไปแข่งรายการประดับประเทศอย่างวิทยุการบิน (รายการนี้เป็นการแข่งขันที่รองรับพร้อมค้นหานักวอลเลย์บอลดาวรุ่งรุ่นใหม่ของประเทศไทย)
หลังจากที่แฟน ๆ วอลเลย์บอลหลายคนเริ่มรู้จักหยกมากยิ่งขึ้น เธอก็กลายเป็นหนึ่งในนักตบลูกยางดาวรุ่งที่ถูกจับตามองอย่างกว้างขวาง ด้วยความที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอเข้าไปเรียนต่อชั้นมัธยมในโรงเรียนบดินทรเดชา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผลิตนักวอลเลย์บอลทีมชาติมาแล้วหลายต่อหลายคน อีกทั้งยังเป็น Academy ของสโมสรสุพรีม ชลบุรี-อี.เทค หรือเจ้าของฉายา โลมาสีชมพู หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของวงการวอลเลย์บอลเมืองไทยน้องจึงได้มีโอกาสเข้าไปร่วมฝึกซ้อมกับสโมสรบ่อย ๆ แถมยังเคยอยู่ในชุดรองแชมป์อะคาเดมีลีกปี 2021ด้วยผลงานอันโดดเด่นทำให้เจ้าตัวติดชาติไทยไปลุยศึกเยาวชนโลก ไปแข่งขันที่ประเทศเม็กซิโกจนได้อันดับที่ 11 มาแล้วด้วย
ส่วน อชิรญาภรณ์ กำใจบุญ มีจุดเด่นอยู่ตรงการขึ้นตบแบบหนักหน่วง ตบเล่นทางได้ มีส่วนสูง และรูปร่างดีสำหรับตำแหน่งบีหลัง พร้อมกับมีความนิ่งเกินวัย มีวินัย จิตใจแข็งแกร่ง สามารถช่วยเหลือทีมในยามจำเป็นได้ตลอด ไม่ว่าจะลงมาแก้เกม หรือทำแต้มสำคัญ ๆ เพราะเธอมีคุณสมบัติครบถ้วน ในอนาคตหากต้องเล่นเกมระดับสูงกว่าเดิมก็คาดว่าจะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน และหลังจากการแข่งขันรายการ ปริ๊นเซส คัพ ได้จบลงไปแล้ว แฟน ๆ ก็จะได้ชมฟอร์มของน้องต่อในรายการที่ใหญ่ขึ้นอย่างวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี ชิงแชมป์เอเชีย หรือที่เรียกว่า 21ST ASIAN WOMEN’S U20 VOLLEYBALL CHAMPIONSHIP ณ ประเทศคาซัคสถาน โดยจะมีเพื่อนร่วมทีมสุดยอดดาวรุ่งเก่ง ๆ อีกหลายคนไม่ว่าจะเป็น กาฟิวส์ อัมพา สนสุรัตน์, ยูฟ่า ดลพร สินโพธิ์, กีกี้ เกวลิน เชื้อเมืองพาน และ ไอมี่ ภิญญดา โต๊ะพ่อ ซึ่งน้อง ๆ ทุกคนก็เป็นความหวังของอนาคตวอลเลย์บอลหญิงไทยยุคใหม่เช่นเดียวกัน
3. สุภาวดี พันวิลัย
คนสุดท้ายอีกหนึ่งสาวน้อยที่กำลังมาแรง สุภาวดี พันวิลัย ชื่อเล่น แคบหมู ส่วนสูงปัจจุบัน 184 ซม. เกิดวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 อายุ 15 ปี ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 7 – บ้านหนองพังแค และมีโค้ชคนเก่งอย่าง อาจารย์สมรรถพล โรจน์โสรจแสง คอยฝึกสอนอยู่ โดยแคบหมูนั้นมีความเก่งกาจตั้งแต่เด็ก ๆ สามารถพาเพื่อนร่วมทีมคว้ารองแชมป์ภาคตะวันออก เข้ารอบสุดท้ายเอสโคล่า ในรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปีได้สำเร็จ หากเปรียบเทียบกับตำแหน่งนักวอลเลย์บอลในรุ่นใกล้เคียงกันแล้ว สุภาวดี พันวิลัย ถือได้ว่ากินขาดเพราะเธอโดดเด่นทั้งความสูงทั้งฝีมือ เก่งทั้งเกมสรุกเกมรับ ไม่ว่าจะเป็นลูกตบ หรือการบล็อก ด้วยผลงานของเด็กคนนี้ทำให้เธอถูกทีมวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกชื่อดังนามว่า สโมสรสุพรีม ชลบุรี-อี.เทค ดึงตัวเข้าไปอยู่ใน Academy และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะในรายการถ้วย ก. น้องโชว์ฟอร์มได้จัดจ้านสมกับความคาดหวังของหลาย ๆ คน
จบลงไปแล้วกับบทความ ส่อง 3 นักวอลเลย์บอลหญิงอายุน้อยที่กำลังถูกจับตามองในปี 2023 เพื่อน ๆ พอจะมองเห็นอนาคตอันสดใสของวงการนักตบลูกยางกันบ้านเราแล้วใช่หรือเปล่า หากเวลาผานล่วงเลยไปอีกซัก 4-5 ปี น้อง ๆ เหล่านี้ยังคงมีฟอร์มที่คงเส้นคงวา หมั่นฝึกซ้อม ตั้งใจเล่น มีวินัยไม่หลงกับไปชื่อเสียง หรือปัจจัยภายนอก คอยพัฒนาฝีมือ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อทดแทนรุ่นพี่ฝีมือดีในสโมสรได้ รับรองว่าวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยคงจะต้องอ้าแขนรับพวกเธอไว้ในอ้อมอกเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน