แล้วก็มาถึงวันที่แฟน ๆ ลูกยางรอคอยกัน โดยการแข่งขันวอลเลย์บอลซีเกมส์ 2023 ในรอบแรก สาวไทยจะเจอกับอินโดนีเซีย แม้รอบนี้เราจะไม่มี พรพรรณ เกิดปราชญ์ หรือ กัปตันชมพู่ เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ผู้เล่นอื่น ๆ ก็ยังอยู่กันครบถ้วน แถมยังมีดาวรุ่งพุ่งแรงจากสโมสรนครนนท์อย่าง วริศรา สีทาเลิศ หรือ เฟิร์น ในตำแหน่งหัวเสา ติดทีม 14 คนสุดท้าย มาด้วย แม้สาวจากแดนอิเหนาจะไม่ใช่คู่แข่งชาติสำคัญ แต่ก็ต้องห้ามประมาณ เพราะหากมองไปยังลีกอินโดนีเซียต้องถือว่าช่วงหลังนั้นดูดีมีมาตรฐานยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ส่วน ฟอร์มนัดแรกของวอลเลย์บอลหญิงไทยในซีเกมส์ 2023 เป็นอย่างไร ก็ขอเชิญเพื่อน ๆ มาติดตามกันต่อได้เลย
ก่อนอื่นเรามาลองวิเคราะห์ความพร้อมของทีมชาติไทย และทีมชาติอินโดนีเซีย ว่าจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
ในฝั่งของนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งอยู่อันดับที่ 15 ของโลก เราคาดการณ์ว่า ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หรือ โค้ชด่วน น่าจะจัดผู้เล่นหลักลงสนามในนัดแรกเลย โดยตำแหน่งเซตเตอร์คงเลือกใช้ สิริมา มานะกิจ หรือ เอ้ จากสโมสร นครราชสีมา ฮุ่ยหวาง คิวมินซี วีซี เจ้าของตำแหน่งตัวเซตยอดเยี่ยมประจำวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกฤดูกาลล่าสุด ลงทำหน้าที่แทน กัปตันชมพู่ ซึ่งได้รับบาดเจ็บ และไม่ได้ติดมากับทีมชุดนี้ ส่วนนักกีฬาคนอื่น ๆ ก็จะมีตัวเก่ง ๆ อย่าง อย่าง ชัชชุอร โมกศรี, อัจฉราพร คงยศ, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, ทัดดาว นึกแจ้ง และ ปิยะนุช แป้นน้อย ในตำแหน่งตัวรับอิสระ ถ้าหากรูปเกมออกมาดูแล้วเรามีโอกาสชนะขาดลอย ก็เป็นไปได้ที่ โค้ชด่วน จะส่งตัวสำรอง และดาวรุ่ง ลงสนามเพื่อเก็บประสบการณ์ พร้อมทั้งทดลองแผนต่าง ๆ อีกด้วย
ทางฝั่งทีมชาติหญิงอินโดนีเซียสำหรับรายการซีเกมส์ 2023 ยังคงใช้ มูฮาหมัด อาลิม ซูเซโน่ รับหน้าที่เป็นโค้ชเช่นเคย และผู้เล่นทั้ง 14 คนส่วนใหญ่มาจากสโมสรชื่อดังอย่าง บันดุง บีเจบี ในลีกอินโดนีเซีย เช่น ไวล์ดา สิทิ นูร์ฟาดีลาห์, ยูลิส อิดาฮ์ยานี่ และตำแหน่งหัวเสา นานดิต้า อายู ซัลซาบีร่า ที่ได้รับรางวัล MVP หรือผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของโปรลีก้า ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาคงต้องจัดเต็ม พร้อมเลือกนักกีฬาที่ดีที่สุดเพื่อสร้างผลงาน และหวังคว้าเซตจากสาวไทยให้ได้สักครั้ง
ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำสถิติต่าง ๆ มาเปรียบเทียบให้แฟน ๆ วอลเลย์บอลได้ดูกันว่ามันมีความสนใจมากน้อยแค่ไหน โดย 5 ครั้งหลังสุดที่ทั้ง 2 ทีมพบกันก็มีดั่งนี้ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2022 รายการ อาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022 ไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ไป 3 – 0 เซต, วันที่ 16 พฤษภาคม 2022 รายการ ซีเกมส์ 2021 ไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ไป 3 – 0 เซต, วันที่ 22 กันยายน 2019 รายการ อาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2019 (สนาม 1) ไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ไป 3 – 1 เซต, วันที่ 4 ตุลาคม 2019 รายการ อาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2019 (สนาม 2) ไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ไป 3 – 0 เซต และวันที่ 3 ธันวาคม 2019 รายการซีเกมส์ 2019 ไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ไป 3 – 0 เซต
หากนับแค่การแข่งขัน 5 เกมหลังสุดของสาว ๆ ทีมชาติไทย คือรายการวอลเลย์บอล ชิงแชมป์โลก 2022 ที่พ่าย สหรัฐอเมริกา ไป 2 – 3 เซต, พ่าย เซอร์เบีย 0 – 3 เซต, พ่าย เยอรมนี 1 – 3 เซต, พ่าย แคนาดา 1 – 3 เซต, ชนะ โดมินิกัน 3 – 2 เซต ส่วนทีมชาติอินโดนีเซีย คือรายการ อาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022 โดยพวกเธอเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ไป 3 – 0 เซต, พ่าย ไทย 0 – 3 เซต, พ่าย เวียดนาม 0 – 3 เซต, รายการ ซีเกมส์ 2021 รอบแรก พ่าย ฟิลิปปินส์ 1 – 3 เซต และรอบชิงชัยอันดับที่ 3 พ่าย ฟิลิปปินส์ อีกครั้ง 1 – 3 เซต
ถ้ามองแค่สถิติจะเห็นว่าผลงานของทั้ง 2 ทีมนั้นแตกต่างกันมาก ๆ นักตบลูกยางสาวไทยดูแล้วเหนือกว่าหลายขุม อินโดนีเซียไม่น่าจะก่อให้เกิดเหตุการณ์แบบเหนือความคาดฝัน หรือทำให้เราเสียเซต แต่อย่างไรก็ต้องไม่ลืมว่าห้ามประมาทเด็ดขาด ทำให้เกมขาดได้ต้องทำ และปิดเกมให้ไวที่สุด
พอมาถึงวันจริงกับรายการวอลเลย์บอลหญิงซีเกมส์ 2023 ทุกอย่างเป็นไปตามคาดการณ์ทั้งหมด สาวไทยเปิดตัวค่อนข้างดีแม้จะดูว่ายังไม่เอาจริงสักเท่าไร แต่ก็ชนะแบบขาดลอย 3 – 0 เซต ด้วยคะแนน 25 – 16, 25 – 16, 25 – 16 แต้ม เพราะเราอุส่าส่งขนผู้เล่นชุดหลักลงสนาม เช่น โสรยา พรมหล้า, ชัชชุอร โมกศรี, ดาริน ปิ่นสุวรรณ, หัตถยา บำรุงสุข, วัชรียา นวลแจ่ม, พิมพิชยา ก๊กรัมย์ และมี ปิยะนุช แป้นน้อย สลับกับ สุพัตรา ไพโรจน์ ในตำแหน่งตัวรับอิสระ
จากรูปเกมสาวไทยยอดเยี่ยม และเหนือกว่ามาก ๆ ระดับฝีมือแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเราได้ก้าวข้ามระดับอาเซียนไปนานแล้ว โดยเซตที่ 1 โค้ชด่วน ส่งผู้เล่นตัวหลักลงก่อน หลังจากเข้าสู่เซตที่ 2 เกมเริ่มขาดจึงทยอยให้โอกาสนักวอลเลย์บอลดาวรุ่งมาโชว์ฟอร์มกันบ้าง เช่น วริศรา สีทาเลิศ หรือ เฟิร์น ในวัย 18 ปี ที่แฟน ๆ หลายคนกำลังจับตามอง และ วิมลรัตน์ ทะนะพันธุ์ หรือ ไก่ ในวัย 20 ปี สำหรับการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรก ทั้งคู่ก็แสดงศักยภาพออกมาให้ได้เห็นแถมไม่มีท่าทีตื่นสนามเลยแม้แต่น้อย เรียกว่าดูดีมีอนาคตเลยทีเดียว ส่วนนักกีฬาคนอื่น ๆ ก็เล่นตามได้มาตรฐาน
สำหรับผู้เล่นซึ่งโชว์ฟอร์มอย่างร้อนแรงก็เป็น ชัชชุอร โมกศรี หรือ บุ๋มบิ๋ม ในวัย 23 ปี และ พิมพิชยา ก๊กรัมย์ หรือ บีม ในวัย 24 ปี โดยทั้งคู่เป็นนักกีฬาที่เล่นอยู่ในลีกต่างประเทศ เรียกได้ว่าเก็บประสบกาณ์มาเต็ม ๆ ขึ้นตีอย่างยอดเยี่ยมเก็บคะแนนได้บ่อย รู้จักผ่อนเกมจังหวะไหนควรเร่งจังหวะไหนควรช้า ยิ่งตอนขึ้นบล็อกคือปังมาก ป้องกันได้แทบทุกลูก ส่วนอีกคนที่ปิดทองหลังพระก็คือ ปิยะนุช แป้นน้อย พี่ใหญ่ในวัย 33 ปี มีความเก๋า สม่ำเสมอ นิ่ง ตามมาตรฐานคงเส้นคงวา คุมจังหวะเกมเอาไว้ในมือได้ทั้งหมด ถืออายุจะเยอะแล้ว แต่ยังคงมีความสำคัญกับทีมชาติไทยอยู่ และเราหวังว่าเธอจะยังคอยประคองน้อง ๆ ในทีมให้เติบโตขึ้นไปอีกระดับ เพื่อรับมือกับศึกอันหนักหน่วงกว่านี้ในวันข้างหน้า
พบกับข้อดีของนักวอลเลย์บอลหญิงไทยไปแล้วลองมาดูข้อเสียกันบ้าง ในซีเกมส์เกมนัดแรกที่พบกับอินโดนีเซีย เราชนะไป 3 – 0 เซต ซึ่งยังประสานงานกันไม่ค่อยดีเท่าไร มีการติดขัดบ้างบางจุด ถ้าได้ปรับจูนกันมากขึ้นคาดว่าน่าจะลงตัวกว่านี้ แม้จะดูยังไม่ใส่เต็ม 100% แต่รวม ๆ แล้วก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมในทุก ๆ ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามนับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และถ้ายังเล่นด้วยฟอร์มเช่นนี้ก็ไม่ยากที่สาวไทยจะเข้าไปป้องกันแชมป์ซีเกมส์พร้อมคว้าเหรียญทองสำเร็จอีกครั้ง เหลือเพียงแค่รอสรุปว่าเราจะได้เจอกับชาติใดในนัดชิงชนะเลิศ หรือเวียดนามจะมาตามนัดอีกครั้งก็มาคอยดูกันอีกที
แฟน ๆ ลูกยางบางท่านอาจจะคิดว่าการแข่งขันระดับซีเกมส์ดูน่าเบื่อ เพราะยังไรสาวไทยก็นอนมาอยู่แล้ว แต่เราก็ยังอยากให้ตามเชียร์พวกเธออยู่ เพราะอย่างน้อยก็ยังได้เห็นแผนการเล่น การเปลี่ยนตัวเอาดาวรุ่ง หรือผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ ลงมาให้ได้ชม รวมถึงลองฉลองไปกับชัยชนะแม้จะเป็นเพียงระดับอาเซียน แต่ก็ช่วยให้เรารู้สึกสนุก ปลาบปลื้ม สมหัวง และอิ่มเอมหัวใจได้เช่นกัน
หลังจากเพื่อน ๆ ได้อ่านบทความ ฟอร์มนัดแรกของวอลเลย์บอลหญิงไทยในซีเกมส์ 2023 เป็นอย่างไร แล้วคิดเห็นไปทางเดียวกับเราไหม ฟอร์มของสาวไทยเป็นดั่งใจกองเชียร์หรือเปล่า อีกอย่างที่ลืมบอกก็คือเรายังได้เห็นชุดแข่งชุดใหม่ที่ดูสวยงามมากขึ้นด้วย สุดท้ายแม้เราจะดูเหนือกว่าชาติอื่น ๆ ในอาเซียนพอสมควร แต่ก็ต้องห้ามประมาณเด็ดขาด ดังนั้นแฟน ๆ ทางบ้านก็อย่าลืมส่งกำลังใจเพื่อให้พวกเธอเก็บเหรียญทองซีเกมส์กลับมาฝากกันอีกครั้งนะ