อ่านฟอร์มหลังเกมกับวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกนัดแรกระหว่างไทยกับอิตาลี

วันนี้แฟน ๆ ลูกยางคงจะทราบผลการแข่งขันนัดเปิดสนามวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2023 ของทีมชาติไทยกันไปแล้ว ถึงแม้สาวไทยจะพ่ายอิตาลีไป 2 – 3 เซต แต่รูปเกมต้องบอกว่ายอดเยี่ยม และน่าประทับใจมาก ๆ รวมถึงยังดูสนุก ได้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา เป็นแมตซ์ที่คุ้มค่าแก่การชมแมตซ์หนึ่งเลยทีเดียว วันนี้เราจึงจะมาชวน อ่านฟอร์มหลังเกมกับวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกนัดแรกระหว่างไทยกับอิตาลี ว่ามีจุดไหนที่น่าสนใจ มีอะไรที่ผิดพลาด และเซตไหนที่ทำได้ดี ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

เริ่มต้นในเซตแรกนักตบลูกยางไทยเปิดหัวได้ดี และลงท้ายด้วยการเก็บเซตแรกไปแบบน่าตื่นเต้น ซึ่งทางด้านของสาวจากแดนมักกะโรนีชุดนี้มีเวลาเก็บตัว และอุ่นเครื่องไม่มากนัก เลยอาจจะทำให้เซตแรกดูลน ๆ มีความไม่เข้าใจ และผิดพลาดกันเองพอสมควร แต่หลังจากเข้าสู่เซตที่ 2 อิตาลีก็กลับมาตั้งตัวใหม่ พร้อมกับทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม ทำแต้มทิ้งทีมชาติไทยไปไกล โค้ชด่วน จึงต้องปรับเกมโดยส่งตัวสำรองลงมาแก้เกม เผื่อสถานการณ์จะดีขึ้น แต่สุดท้ายไม่สามารถทำอะไรได้ทันจึงพ่ายในเซตที่ 2 แบบขาดลอย

มาถึงเซตที่ 3 ความได้เปรียบกลับมาอยู่ในฝั่งของไทยอีกครั้งเพราะเราสามารถคว้าชัยในเซตนี้สำเร็จ ซึ่งกว่าจะเอาชนะอิตาลีก็ต้องลุ้นกันถึงแต้มดิวซ์เลยทีเดียว ไม่ใช่จะเอาชนะง่าย ๆ จนกระทั่งในเซตที่ 4 นักตบลูกยางของไทยก็จัดหนักอย่างเต็มที่ หวังจะปิดเซตสุดท้ายเพื่อเอาชนะในนัดนี้ให้ได้ แต่กลับเกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึงช่วงท้ายเกม เนื่องจากผู้เล่นของไทยอย่าง บีม กับ เพียว บาดเจ็บ สถานการณ์จึงพลิกกลับมาเป็นของสาวอิตาลี สุดท้ายเราก็พ่ายเซตนี้ไปอย่างน่าเจ็บใจ ทำให้เสมอกันที่ 2 – 2 เซต

ในเซตตัดสิน โดยทั้งคู่หวังจะเก็บชัยชนะในนัดแรกให้ได้ ซึ่งตอนนั้นทีมชาติไทยเหมือนจะเหลือแรงน้อยเต็มที (เวลาลุ้นเซตที่ 5 ในรายการระดับนานาชาติทีไร สาวไทยมักจะหมดแรงก่อนเสมอ) รวมถึงสภาพจิตใจก็ไม่ค่อยดีเนื่องจากเพื่อนร่วมทีมบาดเจ็บไม่รู้ว่าหนัก หรือเบาแค่ไหน แถมยังมีความผิดพลาดให้เห็น สุดท้ายจึงส่งผลให้ทีมชาติอิตาลีที่พร้อม และนิ่งกว่าในเซตนี้คว้าชัยไปแทน จบเกมวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกนัดเปิดสนาม ไทย พ่าย อิตาลี 2 – 3 เซต

รวม ๆ ถึงจะแพ้แต่นักตบลูกยางไทยดูมีความเข้าใจกันระหว่างผู้เล่นมากกว่าตอนช่วงซีเกมส์ 2023 อาจเพราะทีมชาติไทยหันมาเอาจริงเนื่องจากต้องเจอกับระดับทีมอันดับ 2 ของโลก จึงทุ่มเทแรงกาย และแรงใจอย่างเต็มที่ เพื่อหวังโค่นอิตาลีให้ได้ในนัดเปิดสนามวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2023 ส่วนผู้เล่นที่ทำผลงานได้ถูกใจเราสุด ๆ ก็คือตำแหน่งตัวตบตรงข้ามหัวเสาอย่าง พิมพิชยา ก๊กรัมย์ หรือ บีม ในวัย 24 ปี ที่โชว์ฟอร์มโหดทำแต้มสูงสุดในทีม อีกคนก็เป็นเซตเตอร์อย่าง พรพรรณ เกิดปราชญ์ ที่พอหายบาดเจ็บแล้วก็ช่วยให้สาวไทยมีรูปแบบการเซตที่หลากหลายมากขึ้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้เล่นคนอื่น ๆ ของทีมชาติไทยก็นับว่าเล่นได้เข้าฟอร์ม สู้กับอิตาลีได้สนุกสูสี แม้จะไม่ใช่ทีมชุดใหญ่ของเขาก็ตาม หากในนัดที่เหลือเรายังสามารถเค้นศักยภาพออกมาได้แบบนี้เรื่อย ๆ เป้าหมายในการเก็บคะแนนเพื่ออันดับโลกที่สูงขึ้นในรายการนี้ก็น่าจะพอไหว ส่วนเรื่องอาการบาดเจ็บในเบื้องต้นของ บีม กับ เพียว เป็นเรื่องของตะคริว เนื่องจากการเล่นเกมหนักอย่างต่อเนื่อง และอุณหภูมิที่เย็นกว่าปกติ แต่อย่างไรก็คงต้องคอยติดตามกันว่าจะมีอาการอะไรแทรกซ้อนหรือเปล่า

ซึ่งในนัดหน้าที่ต้องลงสนามพบกับแคนาดาถือว่านักวอลเลย์บอลทีมชาติไทยมีลุ้นเก็บแต้มพอสมควร โดยสาวไทยจะมีเวลาได้พัก 1 วัน เนื่องจากวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกเป็นแบบทัวร์นาเมนต์ยาว จึงต้องมีการแข่งขันติด ๆ กัน และมีเวลาพักค่อนข้างน้อย ยังไงคงต้องรักษาสภาพร่างกายเอาไว้ให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บเพิ่ม หรืออาการล้าจากเกมหนัก ๆ ตรงนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของโค้ชด่วน และทีมงานทุก ๆ ท่าน 

ข้อดีที่น่าภูมิใจของสาวไทยก็คือเราสามารถเก็บได้ถึง 2 เซตจากทีมอันดับ 2 ของโลกอย่างอิตาลี (รวมถึงพวกเขายังเป็นแชมป์เก่าในรายการนี้อีกด้วย) 1 คะแนนที่ทีมชาติไทยได้มาในนัดเปิดสนามจึงมีความหมายมาก ๆ แถมรายละเอียดในแต่ละเซตแต้มก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันสักเท่าไร แฟน ๆ จึงน่าจะเห็นถึงการพัฒนายิ่งขึ้นของนักตบลูกยางชุดนี้เป็นอย่างดี

การพ่ายไป 2 – 3 เซต ไม่เรียกว่าเสียหาย แต่เสียดายมากกว่า เพราะทีมชาติไทยก็เกือบจะเก็บชัยชนะเอาไว้ได้แล้ว โดยทั้ง 5 เซตนั้นเราจะมาเจาะลึกว่า สาวไทยพลาดกันอย่างไร เล่นผิดแผน ตัวผู้เล่นมีปัญหา เกมรับเกมรุกไม่ดี หรือมีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้อิตาลีคว้าชัยในนัดแรกได้สำเร็จ

ที่เห็นชัด ๆ อย่างแรกก็คงจะเป็นการบล็อกของสาวไทยที่สู้อิตาลีไม่ได้ จากสถิติจะพบกว่าสาวจากแดนมักกะโรนีบล็อกได้แต้มไปถึง 17 คะแนน แต่ทีมชาติไทยทำได้แค่ 7 คะแนน เรียกว่าแตกต่างกันมาก หากใครได้ชมเกมอยู่คงทราบว่าตลอดทั้งเกมเราค่อนข้างทำได้ไม่ดีในจุดนี้เลย และมันจะเป็นปัญหาถ้าเกิดนัดหน้าไทยยังไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่ง โค้ชด่วน อาจจะต้องเลือกใช้การเปลี่ยนตัวเพื่อบล็อกเก็บแต้มคล้ายกับที่ทางอิตาลีทำ เช่นช่วงเซตที่ 4 เขาสลับเอา แอนนา เดเนสซี่ ลงมายืนคู่กับ ซิลเวีย นวากาลอร์ ซึ่งผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็นกันไปแล้ว

สำหรับเกมรุกตัวทำแต้มของทีมชาติไทยหลัก ๆ ในเกมนี้มีเพียง 2 คน คือ พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ที่ทำไปทั้งหมด 22 คะแนน และ ชัชชุอร โมกศรี ทำไป 15 คะแนน ส่วนทางฝั่งของทีมชาติอิตาลีแม้ ปาโอลา เอโกนู ผู้เล่นตัวเก่งที่ทำแต้มมากมายจะไม่ได้ติดทีมชุดนี้มาด้วย แต่ก็ยังมี แอนนา เดเนสซี่ ที่ทำไป 24 คะแนน เลิฟธ์ โอโมรูยี ทำไป 22 คะแนน ซิลเวีย นวากาลอร์ ทำไป 12 คะแนน ซึ่งเป็นทั้ง 3 คนเป็นนักกีฬาชุดเดิมของอิตาลีซึ่งเคยคว้าแชมป์ VNL 2022 ในปีที่ผ่านมา ทำให้สาวไทยต้านทานไม่ไหว เสียแต้มในการบล็อกไปจำนวนมาก อีกทั้งนักตบลูกยางไทยยังมีตัวบุกน้อย ทีมจากแดนมักกะโรนีเลยจับทางเราได้ง่าย และสุดท้ายไทยจึงพ่ายไปแบบน่าเสียดาย

ข้อสุดท้ายก็สำคัญ ถ้าใครเป็นแฟน ๆ วอลเลย์บอลไทยมานานตั้งแต่ยุค 7 เซียน มักจะเห็นลูกไหลหลังเป็นประจำ ข้อดีของการเล่นแบบนี้คือสามารถใช้กับคู่ต่อสู้ที่มีบล็อกสูงได้ดี แต่ทีมชาติไทยชุดนี้เราไม่ค่อยได้เห็นจังหวะเข้าทำแบบนั้นในเกมกับอิตาลีนัก ไม่แน่ใจว่าจะเป็นแผนของ โค้ชด่วน หรือผู้เล่นของไทยยังซ้อมกันได้นานนักจึงทำให้รูปแบบการรุกบอลไหลหลังเท่าไร อีกเรื่องก็คือการเล่นแบบบอล 3 เมตรก็ไม่น้อยลงเช่นกัน ซึ่งข้อนี้อาจเพราะเจอบล็อกสูงบ่อย ๆ เลยไม่กล้าเล่นหรือเปล่า เมื่อการบุกของไทยมีรูปแบบจำกัดส่งผลให้ฝ่ายตรงข้ามป้องกันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ทั้งหมดนี่คือบทความ อ่านฟอร์มหลังเกมกับวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกนัดแรกระหว่างไทยกับอิตาลี แฟน ๆ ลูกยางชาวไทยเห็นด้วยกับผู้เขียนหรือไม่ ว่าเหตุผลเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการพ่ายแพ้ในนัดเปิดสนาม เราไม่ได้จะมาจับผิดว่าใครเล่นไม่ดี เพราะทุกคนในทีมต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่โดยรวม ๆ แล้วผลงานก็ไม่แย่เท่าไร เพียงแต่ยังมีจุดผิดพลาด ต้องแก้ไขเพื่อไปสู้ต่อในเกมอื่น ๆ ที่เหลือ ไม่ว่าอย่างไรผู้เขียนก็ยังคงติดตามพร้อมเป็นกำลังใจให้สาวไทยเสมอ และประสบความสำเร็จในรายการ Volleyball Nations League 2023 ปีนี้