มีหลาย ๆ คนกังวลว่าหลังจากหมดยุค 7 เซียน วงการวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทยจะเป็นยังไง พวกเธอจะเก่งกาจเทียบเท่ากับรุ่นพี่ได้ไหม สายเลือดใหม่ และนักตบลูกยางดาวรุ่งชุดนี้จะพาทีมวอลเลย์บอลไปยังทิศทางใด วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้แฟน ๆ ที่ตามเชียร์ทีมชาติไทยได้ทราบกันกับ วอลเลย์บอลสาวไทยผลงานเป็นอย่างไรหลังหมดยุค 7 เซียนไปแล้ว โดยบทความนี้จะย้อนกลับไปเจาะลึกยังจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนถ่ายจากรุ่นสู่รุ่น และผลงานของการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในช่วงแรก ๆ คือ รายการวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2022 ว่าเมื่อไม่มีรุ่นพี่สุดเทพทั้ง 7 คนแล้ว น้อง ๆ สายเลือดใหม่จะสามารถเอาตัวรอดจากคู่ต่อสู้สุดเขี้ยว และฝ่าฟันอุปสรรคในการแข่งขันสุดโหดแต่ละรายการได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเพื่อน ๆ ก็ตามมาอ่านกันต่อด้านล่างได้เลย
ถ้าถามถึงวงการกีฬาในบ้านเราแล้ว วอลเลย์บอลก็คืออีกหนึ่งชนิดกีฬาซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับผู้ชม และสามารถสร้างความสุขให้กับกองเชียร์ชาวไทยได้ไม่น้อย เพราะพวกเธอยังคงสร้างผลงานในระดับโลกอันน่าประทับใจหลายต่อหลายรายการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเรามีนักตบลูกยางสาวจากการนำทีมของ เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หรือโค้ช อ๊อด กับยุค 7 เซียนนั่นเอง โดยในระยะเวลา 20 ปีทั้ง 7 คนก็ได้สร้างตำนานพร้อมกวาดรางวัลเอาไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ซีเกมส์ แชมป์เอเชียนคัพ แชมป์เอเชีย ถือว่าเป็นชุดแห่งประวัติศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวงการวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเลยก็ว่าได้ ส่วนแฟน ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักพวกเธอก็ลองไปติดตามในบทความก่อนหน้านี้กับ ย้อนรอยตำนานวอลเลย์บอลหญิงไทยกับ 7 เซียน ของเราได้ ว่าประวัติของทั้ง 7 สาวจะเป็นอย่างไร มีใครบ้าง ซึ่งพอระยะเวลาผ่านไปจนหมดยุคทองบางคนก็อาจจะกลัวว่าทีมชาติไทยของเราจะสามารถยืนระยะต่อได้หรือไม่ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา การผลัดใบจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องเริ่มต้นขึ้นอยู่ดี
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. กับสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยร่วมมือกันจัดการแข่งขันนัดอำลาทีมชาติครั้งสุดท้ายให้กับสาว ๆ 7 เซียน และโค้ช อ๊อด ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้สร้างประวัติศาสตร์พร้อมผลงานอันมีชื่อเสียงเลื่องลือให้กับประเทศไทย โดยครั้งนี้ก็เป็นการแข่งขันสนุก ๆ ระหว่างทีม 7 เซียนรุ่นพี่ กับ ทีมสาว ๆ ดาวรุ่งออลสตาร์ ซึ่งทั้ง 7 คนก็ไว้ลาย โชว์ความเก๋าเอาชนะนักตบรุ่นน้องไปได้ 25 ต่อ 18 คะแนน และหลังจากนี้ต่อไปก็จะเข้าสู้ยุคของการเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา หรือแม้กระทั่งโค้ชก็ตาม
โดยครั้งนี้สมาคมได้ใช้โค้ช ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ให้เข้ามาเป็นผู้ฝึกสอนคนใหม่ พร้อมกับผู้เล่นดาวรุ่งอีกหลาย ๆ คนในทีมชาติ ทั้งที่เคยผ่านการเล่นกับชุด 7 เซียนมาก่อน หรือเด็ก ๆ ที่กำลังจะถูกดันขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนในรุ่นถัดไป เช่น พิมพิชยา ก๊กรัมย์, อัจฉราพร คงยศ, ทัดดาว นึกแจ้ง, ชัชชุอร โมกศรี, พรพรรณ เกิดปราชญ์, ยะนุช แป้นน้อย, จรัสพร บรรดาศักดิ์ และ หัตถยา บำรุงสุข ซึ่งทุก ๆ คนล้วนแต่มีความสามารถ และความเก่งกาจไม่แพ้รุ่นพี่ ๆ เลย
เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย สาว ๆ นักตบลูกยางของทีมชาติไทยชุดใหม่ก็ไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง เพราะพวกเธอจัดหนักจัดเต็ม โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจหลายต่อหลายรายการ เริ่มด้วยการเปิดตัวคว้าเหรียญทองในทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ณ ประเทศเวียดนาม โดยสามารถเอาชนะทีมสาวจากเจ้าภาพไปได้แบบสบาย ๆ อย่างขาดลอยถึง 3 ต่อ 0 เซต ต่อด้วยการแข่งขันบนเวทีใหญ่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมอย่างรายการวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2022 ครั้งที่ 4 (2022 FIVB Volleyball Women’s Nations League) ซึ่งเป็นการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงระดับนานาชาติประจำปี โดยพวกเธอลงสนามนัดแรกด้วยความมั่นใจจนสุดท้ายก็เอาชนะสาวจากบัลแกเรียไปได้ 3 ต่อ 0 เซต ในนัดต่อมาที่เจอของแข็งอย่างทีมชาติเซอร์เบีย ก็ยังคงเบียดเอาชนะไปได้แบบสุดระทึก 3 ต่อ 2 เซต แต่พอถึงนัดที่ 3 พวกเธอก็เจอกับคำว่าแพ้จนได้เพราะ สาวจากเบลเยียมนั้นสุดสู้ใจทำให้เราพ่ายไป 2 ต่อ 3 เซตแบบสูสีเลยทีเดียว
ผ่านมาจนถึงนัดที่ 4 นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยกลับมาโชว์ความเก่งอีกครั้งแม้ว่าจะเจอกับนักตบจากประเทศจีน แต่ก็ยังเอาชนะไปได้ 3 ต่อ 2 เซตแบบลุ้นกันตัวโก่ง ส่วนนัดที่ 5 สาว ๆ ของเรายังแรงอย่างต่อเนื่องตบเอาชนะทีมชาติแคนาดาไปถึง 0 ต่อ 3 เซต พอถึงนัดที่ 6 ทีมชาติไทยกลับแพ้ให้กับทีมสาวจากประเทศโปแลนด์ไปแบบตื่นเต้น 3 ต่อ 2 เซต ในนัดที่ 7 ก็ทนต่อความแข็งแกร่งของทีมวอลเลย์บอลหญิงจากญี่ปุ่นไม่ไหว พ่ายไปขาดลอย 3 ต่อ 0 เซต สำหรับนัดที่ 8 ก็เจอของแข็งอย่างต่อเนื่อง เพราะสาว ๆ สหรัฐอเมริกากดทีมชาติไทยไปได้ 1 ต่อ 3 เซต ต่อกันนัดที่ 9 สาวไทยเจอทีมชาติเกาหลีใต้ซึ่งในอดีตอาจจะเคยโหด แต่นัดนี้แพ้ให้กับไทยไป 3 ต่อ 0 เซต พอในนัดที่ 10 ทีมชาติไทยก็ฟอร์มแผ่วลงมาหน่อยจึงทำให้พ่ายต่อ สาธารณรัฐโดมินิกัน 1 ต่อ 3 เซต ส่วนนัดที่ 11 เจอหนึ่งในสุดยอดทีมของวงการวอลเลย์บอลอย่างบราซิลทำให้แพ้ไป 3 ต่อ 1 เซต และนัดคัดเลือกนัดสุดท้ายก็พ่ายต่อเนื่องให้กับทีมชาติอิตาลี 0 ต่อ 3 เซต แต่เมื่อรวบรวมคะแนนแล้วนักตบลูกยางสาวทีมชาติไทยยังคงได้ผ่านเข้าไปสู้ต่อในรอบสุดท้ายกับทีมชาติตุรกี ก่อนจะพ่ายไป 3 ต่อ 1 เซตแบบน่าเสียดาย ส่วนอันดับที่ 1 ในการแข่งขันครั้งนี้เป็นทีมจากประเทศอิตาลีนั่นเอง
บทสรุปถึงแม้พวกเธอจะจบในอันดับที่ 8 กับทัวร์นาเมนต์เนชั่นส์ ลีก 2022 ครั้งนี้ แต่หากดูจากการผลการแข่งขัน และฟอร์มการเล่นโดยรวม ๆ แล้ว ถือว่าสาว ๆ รุ่นใหม่สอบผ่านฉลุย เพราะนอกจากพวกเธอจะได้อันดับดีแล้ว ยังได้รับประสบการณ์ระดับนานาชาติจากผู้เล่นระดับโลกเพื่อนำกลับมาต่อยอดทีมชาติไทยให้เข้มแข็งงยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยเฉพาะโค้ช และผู้เล่นเองยังคงต้องมีการฝึกซ้อมพร้อมปรับปรุงเทคนิคการเล่นในทีมกันต่ออยู่เรื่อย ๆ เพื่ออนาคตเวลาสาว ๆ ของเราไปเจอผู้เล่นที่เก่งกาจกว่า ร่างกายแข็งแกร่งกว่า มีความสูงมากกว่าจะได้ต่อกร และรับมือวางแผนแก้เกมได้ในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเราเชื่อว่าถ้าแฟน ๆ วอลเลย์บอลได้ติดตามดูการแข่งขันของทีมชาติไทยยุคใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง ก็คงจะต้องคอยตามเชียร์ตามให้กำลังใจกันต่อไปเรื่อย ๆ จนเมื่อถึงวันหนึ่งที่พวกเธอประสบผลสำเร็จ สร้างผลงานได้เข้าตาแฟน ๆ มากกว่านักตบรุ่นพี่ เมื่อนั้นผู้ชมอย่างเรา ๆ ก็คงจะดีใจไม่ยิ่งย่อนไปกว่าตัวนักกีฬาเองเลยก็ว่าได้
และนี่ก็คือบทความ วอลเลย์บอลสาวไทยผลงานเป็นอย่างไรหลังหมดยุค 7 เซียนไปแล้ว เพื่อน ๆ คงได้เห็นกันแล้วว่าพวกเธอนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าสาว ๆ นักตบลูกยางรุ่นที่แล้วเลย เพราะหลาย ๆ คนนั้นสามารถขึ้นมาทดแทนกันได้เป็นอย่างดี ทั้งความเก่งกาจ ความแข็งแกร่ง ความสามัคคี จิตใจ ผลงานต่าง ๆ หรือไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่น ตอนนี้ก็อาจจะขาดเพียงแค่ประสบการณ์อีกซักเล็กน้อยก็น่าจะก้าวขึ้นไปอีกระดับได้ ซึ่งล่าสุดบางคนก็ได้มีโอกาสไปร่วมเล่นให้กับสโมสรในลีกต่างแดนในหลาย ๆ ประเทศแล้วด้วย ดังนั้นแฟน ๆ กีฬาวอลเลย์บอลคงจะเบาใจได้มากขึ้น และอยากให้ทุก ๆ ท่านคอยตามเชียร์ตามลุ้นกันแบบสนุกสนานเพลิดเพลินตื่นเต้นเร้าใจเหมือนอย่างเช่นในอดีตอีกครั้ง