ถ้าจะพูดถึงสุดยอดตำแหน่งบอลเร็วของประเทศไทยซักคน หนึ่งในนั้นต้องมีรายชื่อของ ปลื้มจิตร์ ถินขาว อยู่แน่ ๆ แต่ ณ ปัจจุบัน หน่อง ได้อำลาทีมชาติไทยไปแล้ว (เจ้าตัวยังคงลงลงเล่นอยู่ในวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก) ทำให้มีสาว ๆ นักตบลูกยางทั้งหน้าใหม่หน้าเก่ามากมายเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ตรงนี้ ดังนั้นเราจึงจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับ 5 ตำแหน่งบอลเร็วตัวความหวังแห่งวงการวอลเลย์บอลไทย ว่าแต่สาว ๆ ทั้ง 5 คนนี้จะมีใครบ้าง แล้วผู้เล่นเหล่านี้จะตรงกับที่แฟน ๆ วอลเลย์บอลคิดเอาไว้ และคอยตามเชียร์อยู่หรือเปล่า ถ้าอยากรู้แล้วก็ตามมาอ่านกันต่อได้เลย
ตำแหน่งบอลเร็วคืออะไร ทำหน้าที่อะไรบ้าง หากใครมีคำถามลองมาอ่านตรงนี้ก่อน
ตำแหน่งบอลเร็ว หรือตัวบล็อกกลาง (Middle Blocker) เป็นตำแหน่งของผู้เล่นซึ่งอยู่ตรงกลางในแดนหน้า ทำหน้าที่หลักในการบล็อกลูก หรือสกัดลูกไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามตบบอลผ่านแดนเข้ามาได้ นอกจากนี้ยังต้องสามารถขึ้นบล็อกคู่ด้านข้างของสนามได้เป็นอย่างดี ส่วนหน้าที่รองก็คือการเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกโดยพยามทำแต้มจากบอลเร็ว สามารถรุกได้อย่างรวดเร็วโดยมักอยู่ใกล้ตัวเซ็ต เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะ ความแข็งแกร่ง และพลังงานมากเป็นพิเศษ พร้อมทั้งมีความจำเป็นต้องใช้ผู้เล่นที่มีส่วนสูงพอสมควรเพื่อเน้นในเรื่องของการสกัดกั้นบอล ซึ่งตำแหน่งบอลเร็วของแต่ละทีมมักจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 คนในสนามสำหรับความสมดุลเมื่อต้องวางแผนการเล่นต่าง ๆ สรุปแล้วบอลเร็วเป็นที่ตำแหน่งสำคัญไม่แพ้ตำแหน่งอื่น ๆ เลย
เมื่อตำแหน่งบอลเร็วตัวเก่งของวอลเลย์บอลสาวไทยอย่าง ปลื้มจิตร์ ถินขาว อำลาทีมชาติหลังจากใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เจ้าตัวอายุประมาณ 15 – 16 ปี หากนับรวม ๆ แล้วเธอลงสนามในนามทีมชาติไทยถึง 20 ปีเลยทีเดียว กองเชียร์หลาย ๆ คนจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของการคว้าแชมป์ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในผลงานส่วนตัวอีกมากมาย เมื่อทีมชาติไทยขาดเธอไปแฟน ๆ ก็ย่อมรู้สึกเสียดายเป็นธรรมดา แต่มันก็คือวงจรชีวิตของนักกีฬา เพราะเมื่ออายุเยอะขึ้นความสามารถก็อาจถดถอยลงไปตามกาลเวลา ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทดแทน อุดช่องว่างเพื่อสานต่อตำนานซึ่งขาดหายไปในตำแหน่งบอลเร็ว โดยทั้ง 5 สาวด้านล่างนี้พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์นั้น
1. ทัดดาว นึกแจ้ง อายุ 28 ปี ส่วนสูง 185 ซม. สังกัดสโมสร เจที มาร์เวลลัส
คนแรกขอเชิญไปพบกับ แนน สุดยอดผู้เล่นในตำแหน่งบอลเร็วซึ่งน่าจะทำสถิติลงเล่นให้กับทีมชาติไทย และสโมสร ขอนแก่นสตาร์ มากกว่าที่เป็นอยู่ เนื่องจากเธอโชคร้ายเกิดอาการบาดเจ็บจึงต้องทำการรักษาตัวเป็นระยะเวลายาวนาน แต่ในความโชคร้ายก็ไม่สามารถพรากความเข้มแข็งของเจ้าตัวไปได้ สุดท้าย ทัดดาว ก็กัดฟันสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคต่าง ๆ นานา จนก้าวผ่านความยากลำบากเหล่านั้นได้ อีกทั้งยังกลับมาโชว์ฟอร์มปัง ๆ จนถูกสโมสรจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง เจที มาร์เวลลัส ดึงตัวไปร่วมเล่น รวมถึงกลับมาติดทีมชาติชุดใหญ่อย่างภาคภูมิใจ และพร้อมลุยศึกในทัวร์นาเมนต์ระดับโลกเพื่อสร้างชื่อเสียงอีกครั้ง
2. หัตถยา บำรุงสุข อายุ 29 ปี ส่วนสูง 180 ซม. สังกัดสโมสร โตโยต้า ออโตบอดี ควินซีส์
คนที่ 2 คือ เตย นักตบลูกยางตำแหน่งบอลเร็วที่เป็นทั้งเพื่อน และคู่แข่งรุ่นไล่เลี่ยกับ แนน อีกทั้งยังเคยโดนอาการบาดเจ็บรบกวนจนต้องรักษาตัวยาวนานเหมือนกันด้วย ซึ่งในเรื่องฝีมือของ หัตถยา ต้องบอกเลยว่าเป็นของจริง ไม่ว่าจะเป็นการบล็อกที่เหนียวแน่นจนสามารถสร้างสถิติอันดับต้น ๆ ให้กับทีมชาติไทย แถมยังเคยคว้าแชมป์มามากมายเช่น รองแชมป์เอเชีย 2017, รองแชมป์ มงเทรอซ์ 2016 และอันดับ 3 ในศึกเอเชียนคัพ 2018 เมื่อใดที่เธอได้ลงสนามักจะทำได้ดีเสมอทั้งกับ นครราชสีมา เดอะมอลล์ รวมถึง ไดมอนด์ฟู้ด ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่มีทีมจากประเทศญี่ปุ่นอย่างสโมสร โตโยต้า ออโตบอดี ควินซีส์ ยื่นข้อเสนอมาให้ เตย จนเจ้าตัวตัดสินใจบินไปร่วมงานมาแล้วถึง 2 ฤดูกาล
3. ฑิชากร บุญเลิศ อายุ 21 ปี ส่วนสูง 181 ซม. สังกัดสโมสร ทรีบรอดแบนด์ นครนนท์
ตาล คือสุดยอดดาวรุ่งในตำแหน่งบอลเร็ว เป็นตัวความหวัง และอนาคตของทีมชาติไทย โดยเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของ วุ้น ฑิชาญา บุญเลิศ ตำแหน่งเซตเตอร์ซึ่งมีรายชื่อติดทีมชาติไทยอยู่บ่อยครั้ง ซึ่ง ตาล ผ่านการเล่นระดับทีมชาติมาแล้วตั้งแต่ชุดเยาวชน แถมยังมีฝีมือเก่งกาจถึงขนาดได้ลงเล่นข้ามรุ่น เช่นในการแข่งขันวอลเลย์บอลเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ชิงแชมป์อาเซียน หรือ ปริ๊นเซส คัพ ตอนนั้นเธอพึ่งจะอายุเพียงแค่ 15 ปี เรียกได้ว่ากระดูกแข็งเกินเบอร์หากจะเปรียบเทียบกับเพื่อน ๆ ในรุ่นเดียวกัน แถมเจ้าตัวยังได้รับโอกาสกับทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019 (ตอนนั้น ตาล อายุประมาณ 17 – 18 ปี) ให้ไปร่วมทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ซีเกมส์ 2019, ชิงแชมป์เอเชีย 2019, มงเทอรซ์ 2019, เนชั่นส์ ลีก 2019 และ โอลิมปิกเกมส์รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ถึงช่วงนั้นจะไม่ได้ลงเล่นมากนัก แต่ปัจจุบัน ฑิชากร บุญเลิศ ก็ยังคงมีรายชื่ออยู่ในทีมชาติไทยอยู่เช่นเดิม และได้ลงเล่นบ่อยขึ้น ซึ่งเหลือแค่รอเวลาพร้อมประสบการณ์ที่มากกว่านี้ อีกไม่นานเธออาจจะกลายเป็นตัวหลักของทีมชาติไทยก็ได้
4. หทัยรัตน์ จารัตน์ อายุ 26 ปี ส่วนสูง 183 ซม. สังกัดสโมสร ไทย-เดนมาร์ค ขอนแก่นสตาร์
แอ็ป เป็นนักตบลูกยางอีกคนที่วนเวียนอยู่ในแคมป์ทีมชาติไทยมาตลอด และมีความสูงที่พอเหมาะพร้อมร่างกายแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ โดยเจ้าตัวเคยติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 20 ปีแต่ก็ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวหลัก หรือได้รับโอกาสมากเท่าไร แต่กลับกันในช่วงที่เธอเล่นให้กับเยาวชนทีมชาติก็ผ่านมาแล้วมากมายหลายต่อหลายรายการ ซึ่งสิ่งที่ขาดหายไปของ หทัยรัตน์ ก็คงจะเป็นประสบการณ์ในการตัดสินใจ รวมถึงจังหวะการบล็อกการอ่านเกมต่าง ๆ ถ้าหากเธอปรับปรุงในส่วนนี้รับรองว่าอนาคตน่าจะพอมีลุ้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกตำแหน่งบอลเร็วบ้างก็ได้
5. ชิตพร กำลังมาก อายุ 26 ปี ส่วนสูง 190 สังกัดสโมสร นครราชสีมา เดอะมอลล์
ยุ้ย เริ่มเล่นวอลเลย์บอลตั้งแต่สมัยประถม และถูกจับตามองมาก ๆ ในช่วงยังเรียนอยู่ เพราะมีความโดดเด่นเหนือกว่าใครในรุ่นเดียวกัน หลาย ๆ คนจึงคาดว่าเจ้าตัวน่าจะเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมสาวไทยได้ แต่สุดท้ายกลับเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บเข่าซ้ายบิดระหว่างฝึกซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่จนต้องพักรักษาตัวอยู่นาน พอฟื้นตัวกลับมาลงสนามก็รู้สึกไม่เหมือนเดิม จึงต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลพร้อมหยุดเล่นวอลเลย์บอลอีกครั้งเป็นเวลาถึง 1 ปี โดยหลังจากหายดีแล้ว ชิตพร กำลังมาก ก็ได้รับโอกาสกลับมาติดทีมชาติ ซึ่งมักจะมีรายชื่อในช่วงที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ บาดเจ็บ จุดเด่นของเจ้าตัวก็คือความสูงที่ไม่เป็นรองใคร แต่มีการเคลื่อนไหวช้ากว่าเพื่อน ๆ เล็กน้อย จึงอาจจะดูไม่ค่อยเข้ากับระบบการเล่นอันรวดเร็วของทีมชาติไทยซักเท่าไร
ทั้งหมดนี่ก็คือ 5 ตำแหน่งบอลเร็วตัวความหวังแห่งวงการวอลเลย์บอลไทย หวังว่าหลาย ๆ คนคงจะถูกใจกับบทความของเรา ซึ่งทั้ง 5 สาวนั้นมีความเก่งกาจ และโดดเด่นไม่แพ้กัน แต่ละคนก็มีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน หากจะบอกว่าใครเก่งที่สุดก็ไม่อาจจะฟันธงได้ เพราะสถานการณ์หลาย ๆ อย่างย่อมทำให้ผลงานแตกต่างกันออกไป โดยเราก็หวังว่าทุก ๆ คนจะโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมสมกับที่เป็นขวัญใจของแฟน ๆ วอลเลย์บอลทุก ๆ ท่าน ยังไงก็ขอฝากเหล่ากองเชียร์ติดตามการเล่นพร้อมส่งแรงใจให้พวกเธอ ส่วนหนึ่งก็เพื่ออนาคตของทีมชาติ เพราะจะได้มีตัวเลือกดี ๆ เข้ามาช่วยเสริมทัพให้ทีมสาวไทยของพวกเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ