สำหรับวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ต้องบอกว่าช่วงแรกเราร้อนแรงสุด ๆ ทำผลงานได้ดีเกินคาด จนกระทั่งรอบรองชนะเลิศที่ต้องโคจรมาเจอกับพกัมพูชา หนุ่มลูกยางไทยกลับหวั่นไหวต่อเสียง และกองเชียร์ที่เข้ามาจนสนามแทบแตก ทำให้พ่ายเจ้าภาพ 3 ต่อ 2 เซต ทั้งที่นำไปก่อนถึง 2 เซต จึงหล่นลงไปชิงอันดับ 3 กับทีมชาติเวียดนาม แต่สุดท้ายจากที่คิดว่าจะเก็บเหรียญกลับมาฝากกองเชียร์ชาวไทยสักเหรียญ แต่กลับเป็นจบแค่อันดับที่ 4 เหมือนเดิม เกิดอะไรขึ้นกับการแข่งขันรอบนี้ เพื่อน ๆ สามารถหาคำตอบได้ในบทความ วิเคราะห์ฟอร์มนักวอลเลย์บอลชายทีมชาติกับซีเกมส์ 2023
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมฟอร์มของนักตบลูกยางชายทีมชาติไทยก่อนเลย เพราะ 3 นัดแรกในรายการซีเกมส์ 2023 ณ ประเทศกัมพูชา พวกเขาทำหน้าที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ โดยเอาชนะถึง 3 แมตซ์รวด เก็บตำแหน่งแชมป์กลุ่มได้ตามเป้า โดยเฉพาะนัดที่ต้องเจอกับเวียดนาม เราก็ยังสามารถโชว์ฟอร์มปัง ๆ คว่ำรองแชมป์เก่าสำเร็จ สาเหตุหนึ่งก็อาจจะมาจากโค้ชวอลเลย์บอลชาวเกาหลีใต้คนใหม่อย่าง พัค คี วอน ซึ่งช่วยเคี่ยวเข็ญให้หนุ่มนักตบลูกยางไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จากเมื่อก่อนที่เราเคยทำผลงานย่ำแย่พลาดท่าในการคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งจากทัวร์นาเมนต์นี้มาหลายครั้ง แต่พอมาถึงรอบนี้กลับมีความหวังมากกว่าเดิม หากหนุ่มไทยสามารถหยิบเหรียญรางวัลอะไรกลับประเทศได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว
การเข้ามารับหน้าที่โค้ชของ พัค คี วอน ช่วยให้นักกีฬาใหม่ ๆ มีโอกาสติดทีมชาติไทยได้มากขึ้น แถมยังมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างจากเดิมด้วย ตัวอย่างเช่น โค้ชพัค ตัดสินใจเลือกนักวอลเลย์บอลดาวรุ่งอย่าง ธนทัต ทวีรัตน์ ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง ลงแข่งขันก่อนผู้เล่นรุ่นเก๋าอย่าง อมรเทพ คนหาญ ซึ่ง บาห์เรน ถือเป็นว่าเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ ที่ช่วยพาทีมไทยเอาชนะคู่แข่งได้ติด ๆ กัน ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะในตำแหน่งอื่น ๆ ทั้งบอลเร็ว หรือหัวเสาก็ใช้ผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ เช่นกัน แต่สำหรับตำแหน่งบอลสั้นยังคงเลือกใช้ กฤษฎา นิลไสว (ยามีน ทราวาเร่) ในวัย 31 ปี เพื่อลงสนามมาประคองน้อง ๆ ซึ่งพอผสมผสานกันแล้วเราจึงได้ทีมที่มีทั้งความสด และประสบการณ์
ที่สำคัญทีมชาติไทยยังมีผู้เล่นตัวสำรองที่สามารถลงสนามมาเปลี่ยนเกมได้ เช่น อนุรักษ์พันธุ์รัมย์ ในตำแหน่งหัวเสา ซึ่งมีลูกเสิร์ฟที่รุนแรง และเกมรับที่เหนียวแน่น ช่วยให้เพื่อน ๆ เล่นได้ง่ายกว่าเดิม รวมถึง กันตพัฒน์ คูณมี หนุ่มไทยคนแรกที่ได้บินไปแข่งขันในลีกญี่ปุ่น กับสโมสร โออิตะมิโยชิไวส์เซออัดเลอร์ โดยเขาก็โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมไม่แพ้คนอื่น ๆ สุดท้ายตำแหน่งบีหลังอย่าง สุทธิพงษ์ ดรหลักคำ ก็ยังมีโอกาสลงมาหาประสบการณ์ด้วยเช่นกัน ทำให้แฟน ๆ เห็นถึงการพัฒนา และยิ่งคาดหวังว่าหนุ่ม ๆ นักตบลูกยางชุดนี้จะพาทีมผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ หรืออย่างน้อยก็ชิงที่ 3 ในซีเกมส์ 2023 ได้แน่นอน
แต่แล้วพอมาถึงเวลาทีมชาติไทยต้องพบกับกัมพูชาในรอบรองชนะเลิศ หลาย ๆ อย่างกลับไม่เป็นดั่งหวัง และทำให้แฟน ๆ วอลเลย์บอลต้องเสียดายตาม ๆ กัน เพราะเราดันพลาดท่าทั้งที่นำไปก่อน 2 เซต จนสุดท้ายพ่ายให้กับเจ้าภาพ 3 ต่อ 2 เซต ด้วยคะแนน 25 – 18, 25 – 21, 21 – 25, 16 – 25 และ 10 – 15 นับเป็นการตกรอบพร้อมไม่ได้เข้าชิง 3 ถึงครั้งติดต่อกัน แต่ก็ต้องยอดรับว่าเจ้าบ้านเล่นอย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ จึงสามารถพลิกกับมาเอาชนะเราได้ ซึ่งความรู้สึกจากคนที่นั่งเชียร์นั้นน่าจะมีหลายย่างปนเปกันไป ไม่ว่าจะเป็น ความผิดหวัง เซ็ง ช่างมัน คราวหน้าเอาใหม่ โดยบทเรียนราคาแพงครั้งนี้ทั้งโค้ช ทีมงาน กับนักวอลเลย์บอลหนุ่มไทยต้องนำความผิดพลาดกลับมาแก้ไขให้ได้ เพื่อก้าวขึ้นไปอีกระดับ และจะได้ไม่เจอกับสถานการณ์เช่นนี้
ในแมตซ์ที่นักตบลูกยางชายไทยเจอกับกัมพูชา จะเรียกว่าค่อนข้างยากยำลากก็ว่าได้เพราะเราอาจจะไม่มีประสบการณ์ในสิ่งที่ต้องเจอ เช่นกองเชียร์ของเจ้าภาพที่ขนกันมาเต็มสนาม พร้อมเสียงเชียร์อันดังกึกก้อง มันจึงทำให้นักกีฬาไทยเกิดอาการประหม่า เล่นผิดฟอร์ม ลนลานไม่เป็นตัวของตัวเอง จนทำคะแนนเสียกันเองไปหลายครั้ง แถมดูทรงแล้วกำลังใจยังถดถอย และลดน้อยลงทุกที แถมยังไม่มีใครช่วยให้กำลังใจกัน หรือคอยดึงให้กลับอยู่ในเกมได้เลย
หากหันไปมองวงการวอลเลย์บอลชายในอาเซียนปัจจุบันชาติอื่น ๆ พวกเขาก้าวหน้าขึ้นไปมาก ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม อินโดนีเซีย หรือเจ้าภาพกัมพูชา ก็มีลีกอาชีพเป็นของตนเอง ไม่ได้หยุดอยู่กับที่ ส่วนหนุ่มไทยที่เคยเป็นเจ้าของแชมป์ซีเกมส์ 8 สมัย กลับถอยหลังลงเรื่อย ๆ หากยังทำแบบเดิมอยู่เราก็จะไม่ไปไหน ในขณะที่ชาติชั้นนำอื่น ๆ ในระดับอาเซียนกำลังก้าวข้ามเรากันหมด
จริง ๆ แฟน ๆ วอลเลย์บอลส่วนใหญ่คงไม่อยากจะโทษแค่ผู้เล่น หรือใครคนใดคนหนึ่ง เพราะเราเชื่อว่าทุกคนก็ทำอย่างสุดความสามารถแล้ว ควรให้กำลังใจกันมากกว่า และรอวันที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จ กีฬามีแพ้มีชนะ วันนี้อาจจะไม่ใช่วันของนักตบลูกยางไทย แต่วันข้างหน้าถ้าเราปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างให้ดีขึ้น คนไทยก็พร้อมจะเชียร์กันต่อไป
หลังจากเจ้าภาพกัมพูชาตัดโอกาสในการเข้าชิงเหรียญทองของหนุ่มไทยไปแล้วด้วยเกมรับที่ยอดเยี่ยม และแรงเชียร์จากแฟน ๆ ในบ้านเกิดตนเอง พวกเขาจึงมีโอกาสคว้าแชมป์วอลเลย์บอลซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดนจะต้องโคจรไปพบกับอินโดนีเซีย ส่วนทีมชาติไทยจะกลับมาเจอกับเวียดนามอีกครั้ง ซึ่งตอนแรกต้องบอกว่าเรามีลุ้นเหรียญทองแดงค่อนข้างสูง
ในนัดชิงอันดับที่ 3 กับเวียดนาม สิ่งที่ทีมชาติไทยต้องทำก็ฟื้นฟู และดึงสภาพจิตใจนักสู้ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เนื่องจากฟอร์มโดยรวมแล้วหนุ่มไทยไม่ได้เป็นรองใครเลย แต่ยังควบคุมความนิ่งไม่ดีพอ ส่งผลให้เวลาลงสนามแล้วเจอกับความกดดันจึงเกิดการผิดพลาดเองได้ง่าย
ในอดีตนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทยเคยเป็นเจ้าแห่งวงการลูกยางอาเซียนมาก่อน เคยได้เหรียญทอง 4 สมัยติดต่อกันในช่วงปี 2011 – 2017 และได้เหรียญทองแดงในปี 2019 จนกระทั่งมาแพ้กัมพูชาเมื่อปี 2021 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1983 ที่เราไม่จบอันดับ 1 – 3 ทำให้การชิงเหรียญทองแดงกับเวียดนามครั้งนี้มีความหมายมาก ๆ ถึงแม้ในรอบแบ่งกลุ่มทัพดาวทองจะแพ้เราไป 3 – 1 เซต แต่ในนัดชิงที่ 3 อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะในอาเซียนเวียดนามก็ถือว่าอยู่ระดับหัวแถวเหมือนกัน
และแล้วก็มาถึงการแข่งขันวอลเลย์บอลชายซีเกมส์ 2023 ในรอบชิงอันดับ 3 สิ่งที่แฟน ๆ ไม่อยากให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้ เพราะหนุ่มไทยแพ้ให้กับทัพดาวทองไปขาดลอย 0 – 3 เซต ซึ่งในนัดนี้โค้ชชาวเกาหลีใต้อย่าง พัค กี วอน ขนทีมชุดหลักลงทำศึกเต็มอัตรา นำโดยเซตเตอร์กัปตันทีม สราญจิต เจริญสุข, นภาเดช พินิจดี, อนุตร พรมจันทร์, กฤษฎา นิลไสว, ชยุตม์ คงเรือง, ธนทัต ทวีรัตน์ และมี ธนภัทร เจริญสุข ทำหน้าที่ตัวรับอิสระ
โดยเซตที่ 1 หนุ่มเวียดนามโชว์ฟอร์มได้ดีคว้าชัยเซตแรกไป 25 – 18 แต้ม เข้าสู่เซตที่ 2 ทัพดาวทองยังคงทำผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง เอาชนะไป 25 – 20 แต้ม ขึ้นนำ 2 ต่อ 0 เซต เข้าสู่เซตที่ 3 ฟอร์มของทีมชาติไทยยังไม่เข้ารูปเข้ารอย จนทำให้เวียดนามเก็บชัยไป 25 – 20 แต้ม สุดท้ายจึงเอาชนะไทย 3 – 0 เซต ทำให้นักตบลูกยางไทยพลาดการคว้าเหรียญซีเกมส์กลับบ้าน 2 สมัยติดต่อกัน
จบลงไปแล้วกับการ วิเคราะห์ฟอร์มนักวอลเลย์บอลชายทีมชาติกับซีเกมส์ 2023 บอกเลยว่าน่าเสียดายมาก ๆ เพราะช่วงแรกเราทำผลงานได้ดีมาก ๆ แต่สุดท้ายกลับไม่มีอะไรติดไม้ติดมือกลับมาเลย อย่างไรก็ตามอยากให้แฟน ๆ ลูกยางเป็นกำลังใจ และคอยเชียร์หนุ่มไทยในการแข่งขันครั้งต่อไปกันด้วยนะ