หากจะถามหานักวอลเลย์บอลสาวไทยหน้าตาดีสักคน หนึ่งในนั้นต้องมีรายชื่อของ ยุ้ย ชิตพร กำลังมาก รวมอยู่ด้วยแน่นอน ซึ่งขวัญใจหนุ่ม ๆ คนนี้มีความติดดิน และใช้วิถีชีวิตแบบลูกทุ่งเหมือนดังเช่นวัยเด็กของเจ้าตัว ยามเมื่อกลับบ้านที่ต่างจังหวัดก็มักจะถ่ายรูปขณะตนเองกำลังทำกิจกรรมครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเกี่ยวกับการเกษตร โดยไม่ได้ห่วงถึงความสวย หรือกิจวัตรประจำวันที่ไปทำบุญต่าง ๆ ทำให้แฟน ๆ หลายคนชื่นชอบเธอเพราะความเป็นกันเองไม่ได้ถือตัวอะไรมากมาย โดยเส้นทางนักตบลูกยางของ ยุ้ย จะเป็นอย่าไร ต้องผ่านอุปสรรค หรือความลำยากแค่ไหน วันนี้เราจึงจะพาเพื่อน ๆ มาพบกับบทความ เปิดประวัติ ชิตพร กำลังมาก นักวอลเลย์บอลที่มีดีทั้งฝีมือ และหน้าตา ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย
เริ่มต้นจากประวัติคร่าว ๆ ของเธอกันก่อน ชิตพร กำลังมาก มีชื่อเล่นว่า ยุ้ย เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1996 ปัจจุบันอายุ 27 ปี ส่วนสูง 190 น้ำหนักประมาณ 74 กก. กระโดดตบ 303 ซม. กระโดดบล็อก 299 ซม. เป็นผุ้เล่นในตำแหน่งบอลเร็ว สังกัดสโมสรวอลเลย์บอลหญิง นครราชสีมา เดอะมอลล์ วีซี สวมใส่เสื้อหมายเลข 4 และเคยติดทีมชาติมาหลายชุด รวมถึงทีมชาติไทยชุดใหญ่ด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อ ชิตพร กำลังมาก อายุ 16 ปี ตอนนั้นเธอกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนหนองเรือวิทยาอำเภอหนองเรือ ในจังหวัดขอนแก่น และถูกวงการวอลเลย์บอลจับตาเป็นอย่างมากเนื่องจากดาวรุ่งคนนี้มีส่วนสูงที่มากพอจะสู้กับนักตบลูกยางต่างชาติได้ หลาย ๆ คนจึงหวังเจ้าตัวจะติดทีมชาติไทยในอนาคตได้อย่างแน่นอน จากนักกีฬาชุดยุวชนหญิงทีมชาติไทยรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ที่กำลังร้อนแรง และใกล้จะได้เดินทางไปลงสนามในทัวร์นาเมนต์วอลเลย์บอลยุวชนชิงแชมป์โลก แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะ ยุ้ย ดันโชคร้ายได้รับอุบัติเหตุเข่าซ้ายบิดระหว่างฝึกซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่ สุดท้ายจึงอดบินไปแข่งขัน แถมต้องรักษาตัวอยู่พักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว
ชิตพร กำลังมาก เป็นคนอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ตนเองเป็นคนที่ 2 โดย ยุ้ย เริ่มหัดเล่นวอลเลย์บอลครั้งแรกประมาณชั้นประถม 4 ที่โรงเรียนโนนศรีสง่า หลังจากนั้นก็เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนนาแดดวังชมพู แต่เรียนได้เพียงแค่ 1 เทอม อาจารย์ซึ่งเห็นแววว่าเจ้าตัวมีความสามารถทางด้านวอลเลย์บอลโดดเด่นเกินว่าจะอยู่ที่โรงเรียนนี้ จึงได้ส่งตัวไปเรียนหนองเรือวิทยาขอนแก่น ซึ่งมีการสนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอลแบบจริงจังกว่า
เมื่อมีต้นทุนทางด้านความสูง บวกกับทักษะที่ดี ทำให้เมื่อย้ายมาอยู่โรงเรียนหนองเรือวิทยา เธอเลยสามารถพัฒนาฝีมือขึ้นอย่างก้าวกระโดด และได้ข้ามรุ่นไปร่วมเล่นกับคนที่โตกว่า สุดท้ายพอเข้าตาโค้ช จึงมีรายชื่อคัดเลือกในการแข่งขันยุวชนโลก 2012 ที่ประเทศตุรกี ถึงจะติดทีมชุดนี้แต่อยากที่บอกไปข้างต้น ชิตพร กำลังมาก กลับประสบอุบัติเหตุกับการฝึกซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่เสียก่อน จนต้องทำการรักษาร่างกายอยู่สักพัก
เมื่อรู้สึกดีขึ้นเธอจึงกลับมาฝึกซ้อมใหม่อีกครั้งกับทีมโรงเรียนหนองเรือวิทยา แต่ด้วยความที่ยังไม่หายสนิทเลยทำอะไรไม่เต็มที่ รวมถึงยังมีอาการเจ็บ ๆ อยู่ สุดท้ายกลายเป็นเจ้าตัวต้องเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาล และพักต่ออีกถึง 1 ปีเต็ม ๆ หลังจากนั้นพอได้โอกาสกลับคืนสู่การแข่งขันอีกครั้ง ก็เข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัย โดยได้ลองทดสอบสภาพร่างกายกับมหาวิทยาลัยศรีปทุม ในรายการ 7 สีวอลเลย์บอลอุดมศึกษา และทำผลงานออกมาอย่างเป็นอย่างดี ก่อนสุดท้ายเธอจะคว้าปริญญา คณะการจัดการ จากมหาวิทยาลัยศรีปทุมได้สำเร็จ
ซึ่งผลงานตอนนั้นกับมหาลัยศรีปทุม ชิตพร กำลังมาก สามารถคว้าแชมป์ 7 สี มาได้ถึง 2 สมัยซ้อน รวมถึงยังได้รับรางวัลส่วนตัวในตำแหน่งนักวอลเลย์บอลยอดเยี่ยมทั้ง 2 ปีเช่นกัน โดนได้ทั้งรางวัล บล็อกยอดเยี่ยม และบอลเร็วยอดเยี่ยมอีกด้วย
พอเข้าสู่วัย 22 ปี ถือเป็นจุดพีคของ ชิตพร กำลังมาก เพราะเจ้าตัวได้ย้ายมาอยู่กับสโมสร ไทย-เดนมาร์ก ขอนแก่น พร้อมทั้งโชว์ฟอร์มอย่างร้อนแรงจนติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปเล่นในทัวร์นาเมนต์วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2018 แถมในรายการซีเกมส์ก็สามารถพาทีมชาติป้องกันแชมป์พร้อมคว้าเหรียญทองกลับบ้าน ส่วนรายการวอลเลย์บอลเอเชียนเกมส์ที่ประเทศอินโดนีเซียก็จบเป็นอันดับ 2 คว้าเหรียญเงินมาได้สำเร็จ
โดยหลังจากนั้นเธอก็ยังโชว์ฟอร์มเก่งให้กับสโมสรจนเกือบได้แชมป์วอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกอีกด้วย แต่ตอนกำลังลุ้นกันอย่างสนุกอยู่นั้นก็โชคร้าย เพราะการแข่งขันต้องหยุดชะงักลงเพราะโควิด 19 เพื่อให้หลาย ๆ อย่างคลี่คลายเสียก่อน
ช่วงวิกฤตโควิด 19 เป็นตอนที่หลาย ๆ ส่วนถูกผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่เว้นกระทั่งวงการวอลเลย์บอลไทยด้วย แม้ในขณะที่วอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกกำลังแข่งขันจนใกล้จะได้ตำแหน่งแชมป์แล้ว แต่ก็ต้องถูกหยุดไปก่อน ทำให้นักกีฬาหลาย ๆ คนทั้งไทยทั้งต่างชาติจึงต้องแยกย้ายกันกับบ้าน รวมถึง ชิตพร กำลังมาก ซึ่งตอนนั้นสังกัดอยู่กับสโมสร ไทย-เดนมาร์ก ขอนแก่นสตาร์ วีซี เช่นกัน
พอไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ชิตพร กำลังมาก จึงเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อช่วยครอบครัวทำไร่นา เข้าป่าเข้าสวน เลี้ยงสัตว์ ใช้ชีวิตในต่างจังหวัดอย่างสนุกสนาน เรียกได้ว่ามีกิจกรรมแน่นเอียดให้ทำ แถมยังทดลองขายมะม่วง มะม่วงกวน มะม่วงอบแห้ง ออนไลน์ผ่านทาง Facebook ของเธอเองที่ชื่อว่า Chitapron Kamlangmak อีกด้วย โดย ยุ้ย กล่าวว่าการใช้ชีวิตแบบนี้แม้จะเหนื่อยแต่ก็มีความสุข เพราะนอกจากมันจะเป็นของเราเองแล้ว ยังได้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วย หลาย ๆ อย่างก็ได้หัดทำด้วยตนเอง และก็มีความสุขไปกับมัน
ขณะที่กลางปี 2022 มีข่าวหนาหูว่า ชิตพร กำลังมาก และ ชมพูนุช จิตสบาย ได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมยังลีกเวียดนามกับสโมสร กิ่ญ บั๊ก บั๊ก นิญ ซึ่งตอนฤดูกาล 2022 นั้นถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่แต่ละทีมของลีกเวียดนาม จะสามารถดึงตัวผู้เล่นต่างชาติเข้ามาร่วมทีมเพื่อลงสนามได้
ตอนนั้น ยุ้ยมีอายุ 26 ปี และกำลังลงเล่นให้กับ นครราชสีมา คิวมินซี โดยเจ้าตัวก็ยังมีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา และพร้อมจะบินไปเผชิญหน้ายังลีกต่างแดนเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ แต่สุดท้ายการเซ็นสัญญากลับล่ม เนื่องจากเหตุผลอะไรไม่ทราบได้ ทำให้เจ้าตัวยังคงอยู่ที่โคราชเช่นเดิม หลายคนอาจจะคิดว่ามันคือโชคร้าย แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า หลังจากนี้อีก 1 ปี ยุ้ยกลับพาทีม นครราชสีมา คว้าแชมป์วอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกได้สำเร็จ
ในวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีกฤดูกาล 2022 – 2023 ชิตพร กำลังมาก จากสโมสร นครราชสีมา ฮุ่ยหวาง คิวมินซี วีซี สามารถพาทีมคว้าแชมป์มาได้ ซึ่งถือว่าเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกของเจ้าตัว และยังได้รับรางวัลตำแหน่งตัวบล็อคยอดเยี่ยมอีกด้วย โดยเธอรู้สึกดีใจ และภูมิใจมาก ๆ ทั้งกับตนเอง และเพื่อน ๆ ในทีม เนื่องจากทุก ๆ คนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศรู้สึกกดดัน เพราะคู่แข่งอย่าง ไดมอนด์ ฟู้ด เล่นได้ดีมาตลอด แต่ ยุ้ย กับเพื่อน ๆ จากโคราชก็เตรียมตัวมาดีเช่นกัน ได้ดูการเล่นย้อนหลัง วางแผน และทำตามที่ฝึกซ้อมมา สุดท้ายจึงเอาชนะจนกลายเป็นแชมป์ในปีนี้สำเร็จ
ส่วนรางวัลตัวบล็อกยอดเยี่ยมที่ได้รับ ก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก ๆ เช่นกัน เพราะตนเองทำงานหนักมาตลอด พยายามฝึกฝน ฝึกซ้อม พอได้รางวัลนี้มาแถมทีมก็คว้าแชมป์ นับว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ และขอบคุณทุกกำลังใจที่แฟน ๆ มอบให้ด้วย
มาถึงบทสรุปของบทความ เปิดประวัติ ชิตพร กำลังมาก นักวอลเลย์บอลที่มีดีทั้งฝีมือ และหน้าตา แม้ช่วงหลัง ๆ ยุ้ย จะหลุดจากทีมชาติไทยไป แต่เราก็หวังว่าไม่นานนัก หรืออาจจะเป็นภายในปีนี้ก็ได้ ที่เจ้าตัวจะกลับมามีรายชื่ออยู่ในทีมชาติอีกครั้งหนึ่ง