ในที่สุดการแข่งขันวอลเลย์บอลซีเกมส์ 2023 ก็เดินทางมาจนถึงรอบสุดท้าย โดยรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ก็เหมือนฉายภาพซ้ำอีกหน เพราะมันเป็นการพบกันของสาวทีมชาติไทย และสาวจากเวียดนาม ซึ่งทั้งคู่ล้วนคว้าตำแหน่งแชมป์กลุ่มพร้อมผ่านเข้ารอบมาเจอกัน ดังนั้นบอกเลยว่าเกมเดือดแน่นอน แต่ก่อนชมการแข่งขันเราจะพาเพื่อน ๆ ไป วิเคราะห์ก่อนนัดชิงชนะเลิศวอลเลย์บอลซีเกมส์ 2023 ระหว่างไทยกับเวียดนาม เพื่อจะเพิ่มอรรถสรให้สนุกยิ่งขึ้น
เริ่มที่ฝั่งของทีมวอลเลย์บอลสาวไทย แน่นอนว่า ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หรือ โค้ชด่วน ต้องจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเพราะมันคือนัดชิงชนะเลิศแล้ว โดยนักกีฬาที่มีโอกาสได้ลงสนามน่าจะคล้ายกับนัดรองชนะเลิศ เช่น ทัดดาว นึกแจ้ง, อัจฉราพร คงยศ, ชัชชุอร โมกศรี เป็นตัวหลัก และอาจใช้ ดาริน ปิ่นสุวรรณ, วิมลรัตน์ ทะนะพันธุ์, วริศรา สีทาเลิศ คอยสลับสับเปลี่ยนตามรูปเกม แต่อย่างไรคิดว่าทีมชาติไทยจำเป็นต้องเร่งทำคะแนนพร้อมรีบปิดเกมตั้งแต่ช่วงต้น เพราะเรามีความสดมากกว่าทัพดาวทอง ซึ่งที่ผ่านมาเรายังออกตัวช้าไปหน่อยเหตุเพราะมีนักตบลูกยางหลายคนที่พึ่งกลับบมาจากการแข่งขันในลีกต่างประเทศ ทำให้ระบบ หรือจังหวะต่าง ๆ ไม่ค่อยลงตัว
สำหรับตำแหน่งบีหลังของทีมชาติไทยอย่าง พิมพิชยา ก๊กรัมย์ หรือ บีม ในวัย 24 ปี ครั้งนี้ถือว่าเจ้าตัวเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ ขึ้นตบแบบหนัก ๆ คม ๆ หลายต่อหลายหน แถมตอนบล็อกก็มีความเหนียวแน่น ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถตีผ่านไปง่าย ๆ โชว์มาตรฐานการเล่นจากลีกตุรกีแบบเหนือชั้น ต่อให้เป็นนักตบลูกยางจากทัพดาวทองก็คงยากที่จะเอาชนะเธอ ดังนั้น บีมจึงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรซึ่งคอยช่วยให้ทีมเก็บเหรียญทองมาฝากแฟน ๆ ชาวไทยได้
โดยช่วงแรกหัวเสาตัวหลักทั้ง 2 คน (อัจฉราพร คงยศ และ พิมพิชยา ก๊กรัมย์) เป็นผู้เล่นที่เข้ามาสู่ทีมหลังจากนักกีฬาหลาย ๆ ได้ฝึกซ้อมร่วมกันไปแล้ว ทำให้ทั้งคู่ต้องมาเริ่มปรับจูนกันใหม่ รวมไปถึงสภาพอากาศอันแตกต่างจากตุรกี ฟอร์มที่แฟน ๆ ลูกยางเห็นจึงยังไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดของพวกเธอ แต่หลังจากผ่านการแข่งขันไปแล้ว 4 นัด ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ซึ่งในแมตซ์ชิงชนะเลิศคาดว่าโค้ชคงจะเน้นแผนการเล่นแบบไม่ซับซ้อนมาก เพื่อรับประกันความแน่นอน เพราะอย่างไรสาวไทยก็มีทักษะ และประสบการณ์เป็นต่อเวียดนามอยู่แล้ว
อีกตำแหน่งที่เล่นได้นิ่งมาก ๆ ก็คือบอลเร็วอย่าง ทัดดาว นึกแจ้ง และ หัตถยา บำรุงสุข ในวัย 29 ปี โดยทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง และเคยมีประสบการณ์จากลีกต่างชาติด้วย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นเกมรุก หรือเกมรับ โดยเฉพาะลูกบล็อกอันแข็งแกร่งยากจะตีผ่านไปได้
ส่วนจุดที่อาจจะดูไม่ค่อยสมบูรณ์นักก็คงเป็นตำแหน่งเซตเตอร์ เพราะไทยไม่มี กัปตันชมพู่ มาด้วยเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แม้ โสรยา พรมหล้า และ สิริมา มานะกิจ จะมีฝีมือดีตามมาตรฐานแต่ก็ยังไม่โดดเด่นเท่าไร
โดยรวม ๆ แล้วนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยก็ยังเหนือกว่าเวียดนามในทุกตำแหน่งทั้งตัวจริง และตัวสำรอง รวมไปถึงแผนต่าง ๆ ที่นำมาใช้ สรุปแล้วหากไม่มีอะไรผิดพลาดจริง ๆ สาวไทยของเราก็คงจะป้องกันแชมป์ซีเกมส์ได้อีกสมัย
มาทางฝั่งของทีมชาติเวียดนามกันบ้าง ต้องบอกว่าพวกเธอมีสถิติในรายการซีเกมส์ที่ไม่ค่อยน่าปลื้มเท่าไร เพราะถึงทัพดาวทองจะได้เข้าชิงเหรียญทองถึง 11 ครั้ง แต่ก็พ่ายให้กับทีมชาติไทยทุกครั้ง และรอบนี้สาวเวียดนามน่าจะตั้งใจเอาชนะไทยให้ได้เช่นเคย โดยโค้ชอย่าง เหงียน ตวน เกี๊ยด มาพร้อมผู้เล่นชุดแชมป์สโมสรเอเชีย ในนามสโมสร สปอร์ตเซ็นเตอร์ 1 ที่พึ่งเอาชนะสโมสร ไดมอนด์ ฟู้ด ไฟน์เชฟ–แอร์ฟอร์ซ จากไทยไปได้ แถมพวกเขายังไร้พ่ายในทัวร์นาเมนต์นั้นอีกด้วย นับว่ามีการพัฒนาขึ้นมาพอสมควรเลยทีเดียว ส่วนนักกีฬาที่แฟน ๆ หลายคนคุ้นเคยก็จะเป็น ทราน ธิ ทาน ทุย หรือ 4T พร้อมด้วย วี ถิ ญือ กวิ่ง, เจิ่น ตู้ ลินห์, หว่าง ถิ เกี่ยว ตรีนห์ และ เหงียน คานห์ ดาน ซึ่งได้รางวัลตัวรับอิสระยอดเยี่ยมในรายการสโมสรเอเชีย
ทีมวอลเลย์บอลหญิงเวียดนามพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม เพราะพึ่งคว้าแชมป์สโมสรเอเชียได้เป็นครั้งแรก ซึ่งมันแสดงว่าพวกเธอมีศักยภาพมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะใช้ทีมชาติมาสู้กับทีมสโมสรจากประเทศอื่น ๆ ก็ตาม แต่ก็นับเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ทัพดาวทองประสบความสำเร็จในระยะสั้น และอาจคิดไปถึงการคว่ำทีมชาติไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ให้ได้
ทีนี้ลองมาเจาะแต่ละตำแหน่ง เริ่มจากตัวรับอิสระอย่าง เหงียน คานห์ ดาน ซึ่งดูดีผิดหูผิดตา สามารถยกระดับทีมเพิ่มเกมรับแบบเหนียวแน่นสุด ๆ หากชมเกมการแข่งขันจะพบว่าบ่อยครั้งที่เธอรับลูกยาก ๆ สำเร็จ และสร้างความได้เปรียบช่วยให้ทีมโต้กลับพร้อมเก็บแต้มง่ายขึ้นกว่าที่เคย
ขาดไม่ได้คือนักวอลเลย์บอลคนสำคัญซึ่งมีโอกาสไปเล่นใน วี.ลีก หรือลีกของประเทศญี่ปุ่นมาหลายฤดูกาลอย่าง ทราน ธิ ทาน ทุย ยังคงเป็นเดอะแบกของทัพดาวทองเช่นเดิม เพราะนอกจากจะรับหน้าที่กัปตันแล้ว หลาย ๆ ครั้งคะแนนส่วนใหญ่ยังมาจากการขึ้นตบสุดอันตรายของเธอด้วย ยิ่งเจอกัน 4T ยิ่งเก่งและพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยส่วนสูง 193 ซม. ก็เป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบของเจ้าตัว เรียกว่าจะขึ้นตี หรือขึ้นบล็อกก็กดฝ่ายตรงข้ามได้อย่างยอดเยี่ยม
สุดท้ายโดยรวมของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเวียดนามนั้นมีความแข็งแกร่งกว่าเดิม แต่ละตำแหน่งพัฒนาขึ้นมาก ยิ่งการบล็อก และเกมรับถือว่าเป็นจุดแข็งของทีมเลยทีเดียว ส่วนจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดก็คือนักกีฬาหลาย ๆ คนยังไม่ชินกับความกดดันเท่าไร ซ้ำเวลาทำอะไรไม่ได้ก็ยัดบอลไปให้ ทราน ธิ ทาน ทุย คนเดียว ตรงนี้จะทำให้ 4T เกิดอาการล้าเนื่องจากต้องรับภาระหนักมาตลอดซีเกมส์ 2023
โดยสถิติของทีมชาติไทย และทีมชาติเวียดนามที่เจอกัน 5 ครั้งหลังสุดมีดังนี้ รายการอาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022 ไทย ชนะ เวียดนาม 3 – 0 เซต, รายการ AVC Cup รอบชิงอันดับ 3 ไทย ชนะ เวียดนาม 3 – 0 เซต, ซีเกมส์ 2021 รอบแรก ไทย ชนะ เวียดนาม 3 – 1 เซต, ซีเกมส์ 2021 รอบชิงชนะเลิศ ไทย ชนะ เวียดนาม 3 – 0 เซต, ซีเกมส์ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ไทย ชนะ เวียดนาม 3 – 0 เซต
ก่อนจะเดินทางมาถึงนัดชิงชนะเลิศซีเกมส์ 2023 ซึ่งเป็นแมตซ์สุดท้าย ทั้ง 2 ทีมแข่งขันกันอย่างต่อเนื่องในสภาพอาการอันร้อนอบอ้าว หลายคนน่าจะเกิดอาการอ่อนล้า และสภาพร่างกายอาจจะไม่ 100% แล้ว ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างกันระหว่างไทยกับเวียดนาม เพราะผู้เล่นสาวไทยได้ลงสนามสลับสับเปลี่ยนครบทั้ง 14 คน ทำให้มีความสดอยู่ แต่ทัพดาวทองเน้นใช้ชุดหลักตลอดรายการ ส่งผลให้นักกีฬาเสียเปรียบจากลงสู้ศึกหนัก ๆ และมีความเหนื่อยล้าแน่นอน ยิ่งถ้าเกมยื้อ หรือยืดเยื้อมากเท่าไร ยิ่งมีสิทธิ์ที่ไทยจะคว้าเหรียญทองกลับบ้านมากเท่านั้น
จริง ๆ ต้องบอกว่านอกจากวอลเลย์บอลทีมชาติหญิงเวียดนามจะใช้ผู้เล่นชุดหลักมาอย่างต่อเนื่องในซีเกมส์ 2023 แล้ว หากนับในการแข่งขันสโมสรชิงแชมป์เอเชียด้วยก็ถือว่าพวกเธอลงสนามไปทั้งหมด 9 เกม แม้จะมีความเข้าในระหว่างผู้เล่นที่ดีกว่าทีมชาติไทย แต่ข้อเสียก็คือพละกำลังจะต้องตกลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทัพดาวทองจึงน่าจะเริ่มต้นเกมด้วยการบุกหนักจัดเต็มใส่สาวไทยก่อนที่จะหมดแรงแน่นอน ดังนั้นมันจึงเป็นเกมที่น่าดู และลุ้นกันสนุกกว่านัดที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งแฟน ๆ ลูกยางก็มาคอยลุ้นกันว่าระหว่างไทยกับเวียดนาม ชาติไหนจะเป็นแชมป์วอลเลย์บอลซีเกมส์ 2023 ในครั้งนี้กัน
และนี่ก็คือการ วิเคราะห์ก่อนนัดชิงชนะเลิศวอลเลย์บอลซีเกมส์ 2023 ระหว่างไทยกับเวียดนาม หวังว่าแฟน ๆ ลูกยางคงถูกใจบทความครั้งนี้ และสุดท้ายเราคิดว่าสาวไทยคงจะไม่พลาดเหรียญทองซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชาแน่นอน