อรอุมา หรือ อร คือ 1 ในตำนานผู้เล่น 7 เซียน ที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการวอลเลย์บอลลีกอาชีพ แม้ปัจจุบันเจ้าตัวจะอายุ 36 ปีแล้วแต่ก็ยังมีความฟิตสมบูรณ์อยู่ โดยตอนนี้เธอเป็นผู้เล่นของ สโมสรวอลเลย์บอลหญิงนครราชสีมา ฮุ่ยหวาง คิวมินซี วีซี ในวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2022 – 2023 และยังช่วยพาทีมเข้าสู่เลกที่ 2 ได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้าแฟน ๆ วอลเลย์บอลได้ติดตามผลงานของ อร มาตลอดก็จะทราบว่าเธอกวาดรางวัลกับแชมป์มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลส่วนตัว แชมป์กับระดับสโมสร หรือแชมป์ระดับประเทศ ส่วนถ้าเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่รู้จักเจ้าตัวดีพอ วันนี้เราก็จะขอเชิญมาอ่านบทความ เปิดประวัติ อรอุมา สิทธิรักษ์ หัวเสาตัวเก่งของ 7 เซียน ไปพร้อม ๆ กันเลย
อรอุมา สิทธิรักษ์ ชื่อเล่น อร ปัจจุบันอายุ 36 ปี เป็นชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนสูง 176 ซม. น้ำหนักประมาณ 72 กก. กระโดดตบ 304 ซม. กระโดดบล็อก 285 ซม. ลงเล่นตำแหน่งตัวตบหัวเสา
เริ่มที่ประวัติของ อรอุมา สิทธิรักษ์ กันเลยดีกว่า โดย อร เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ณ อำเภอ เคียนซา จังหวัด สุราษฎร์ธานี ซึ่งเธอเติบโตมากับครอบครัวที่มีรายได้ไม่มากนัก คุณพ่อชื่อว่า พระประจวบ ปญญาโม (ปัจจุบันซึ่งบวชเป็นเจ้าอาวาสวัดควนสามัคคี อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี) ส่วนมารดาชื่อ วรรณา สิทธิรักษ์ สมัยก่อนในเวลาเช้า อร กับพี่น้องทั้ง 3 คน ต้องตื่นประมาณตี 4 เพื่อที่จะช่วยพ่อแม่แบ่งเบาภาระก็ต้องไปรับจ้างเก็บน้ำยางพาราก่อนไปเรียนหนังสือ ส่วนในวันหยุดก็ยังต้องทำงานต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือครอบครัว ทำให้ในวัยเด็กเจ้าตัวจึงใฝ่ฝันว่าเมื่อโตขึ้นอยากจะทำอาชีพเป็น หมอ พยาบาล ทหาร ครู คล้ายเด็ก ๆ ทั่วไปในสมัยนั้น แต่จริง ๆ จะทำอะไรก็ได้ยกเว้นอาชีพคนกรีดยางที่ครอบครัวตนเองทำอยู่ เพราะอยากมีความมั่นคงในอนาคต มีเงินจำนวนมากพอมาเลี้ยงดูพ่อกับแม่ไม่ให้ยากลำบาก
สำหรับอดีตที่ อรอุมา สิทธิรักษ์ ต้องสู้ชีวิตอย่างยากลำบากพอผ่านมาแล้วก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะช่วงไหนที่ท้อแท้ หรือรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า อร ก็จะมองย้อนกลับไปพร้อมคิดว่าในสมัยก่อนยังเคยสู้มาขนาดไหนอีกทั้งเห็นคุณพ่อคุณแม่ลำบากรับจ้างคอยกรีดยางมาเลี้ยงดูตนเอง และครอบครัว ซึ่งในช่วงนั้นที่ อรอุมา สิทธิรักษ์ ช่วยที่บ้านก็จะรู้วิธีทำงานทั้งหมด ยกเว้ยเรื่องเดียวคือการกรีดยาง โดยเธอบอกกับแม่ว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะไม่ฝึก และขอไม่ลงมือทำเด็ดขาด เหตุผลก็เพราะหากตัวเองกรีดยางเป็น เวลาที่ท้อถอย หรือคิดว่าจะเลิกเล่นวอลเลย์บอลตอนไหนก็ไม่เป็นไรค่อยกลับมากรีดยางที่บ้านเกิดก็ได้ เมื่อทำไม่เป็นก็ต้องอดทนฝ่าฟันสร้างฝันกับอาชีพนักวอลเลย์บอลที่อยู่ตรงหน้าให้สำเร็จ
จริง ๆ แล้วตอนเด็ก ๆ อรอุมา สิทธิรักษ์ เริ่มต้นจากการเป็นนักกีฬานักวิ่งมาก่อน แต่พอเห็นเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนซ้อมวอลเลย์บอลกันเป็นทีม ก็รู้สึกว่ามันน่าจะสนุกกว่าจึงลองไปเล่นวอลเลย์บอลด้วย ซึ่งหลังจากเธอฝึกซ้อมกับทีมอยู่ซักพักก็ได้แสดงศักยภาพให้โค้ชเห็นจนกลายเป็นตัวจริงไปลงแข่งขันกับรายการต่าง ๆ และสามารถนำรางวัลกลับมาสู่โรงเรียนได้สำเร็จ ไม่ใช่แค่กีฬาวอลเลย์บอลเพียงอย่างเดียว เพราะรวมถึงกีฬาวิ่งที่เธอยังไม่ได้ทิ้งไปเสียทีเดียวก็ยังได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนบ้านควนสามัคคีเช่นกัน ทำให้เราได้เห็นว่าส่วนใหญ่คนที่มีพรสวรรค์ทางด้านกีฬาอย่าง อร จะสลับไปเล่นกีฬาชนิดใดก็ยังทำได้ดี และเมื่อเวลาล่วงเลยไปจนเจ้าตัวขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก็เปลี่ยนมาเข้าสู่วงการนักตบลูกยางแบบเต็มตัว โดยเหตุผลอีกอย่างหนึ่งก็คือ จะได้เปิดหูเปิดตาพร้อมเดินทางไปแข่งขันยังสถานที่ต่าง ๆ เพราะระดับความสามารถในการแข่งขันวิ่งของเธอมักจะหยุดอยู่แค่ระดับอำเภอเท่านั้น แต่กับวอลเลย์บอลดูทรงยังไปต่อได้อีกไกล ทำให้ อร ตัดสินใจหันมาทางนี้อย่างจริงจังน่าจะดีกว่า อย่าน้อยก็ไปถึงระดับจังหวัดแล้ว แถมยังมีความท้าทายมากกว่าอีกด้วย และนี่ก็คือการตัดสินใจครั้งสำคัญของ อรอุมา สิทธิรักษ์ ก่อนที่จะกลายเป็นตำนาน 7 เซียนในปัจจุบัน
หากพูดถึง 7 เซียนแล้ว อรอุมา สิทธิรักษ์ เป็นนักตบลูกยางอีกคนซึ่งมีความเก่งกาจจนได้บินไปโลดแล่นในลีกต่างประเทศหลายต่อหลายแห่งด้วยกันตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ว่าจะเป็น ประเทศเวียดนาม, อาเซอร์ไบจาน, ตุรกี, สวิตเซอร์แลนด์ และดินแดนปลาดิบหรือประเทศญี่ปุ่น โดยประเทศที่ อร เข้าไปร่วมเล่นแล้วสร้างชื่อเสียง และสร้างเครดิตให้แก่ตนเองเป็นอย่างมากก็คือ สโมสร ดินาโม คาซาน ในประเทศรัสเซีย ฤดูกาล 2010 – 2011 เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักกีฬาวอลเลย์บอลจากประเทศไทยจะได้ลงเล่นในลีกของรัสเซียซึ่งถือว่ามีความแข็งแกร่งระดับโลกเลยทีเดียว อีกทั้งยังได้เพื่อนร่วมสโมสรเป็นสุดยอดนักตบลูกยางทีมชาติหลาย ๆ คน โดยเฉพาะ เอคาเทริน่า กาโมว่า ตำนานดาวตบทีมชาติรัสเซีย และ จอร์แดน ลาร์สัน กัปตันสุดแกร่งของทีมชาติสหรัฐอเมริกา ช่วงนั้นจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าจดจำ และเป็นที่สุดของอาชีพนักวอลเลย์บอลของเจ้าตัวก็ไม่ผิดนัก
ในช่วงหลัง ๆ นั้นสำหรับนักตบลูกยางชาวไทยหลาย ๆ คนมีความเก่งกาจขนาดไปลงล่นยังลีกต่างแดนได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งยุโรป และในเอเชีย ส่วน วี.ลีก หรือลีกวอลเลย์บอลอาชีพสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งนักวอลเลย์บอลบ้านเราได้บินไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กันมากมาย ส่วนนักกีฬาไทยคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ วี.ลีก กับทีม เจที มาร์เวลลัส มาได้ก็คือ แก้วกัลยา กมุลทะลา ในตำแหน่งบอลเร็ว แต่หากจะนับว่าใครคือคนที่ไปแล้วโชว์ฟอร์มได้ดีจนประสบความสำเร็จเป็นรายต้น ๆ ก็คงต้องมีชื่อของ อรอุมา สิทธิรักษ์ รวมอยู่ด้วยแน่นอน ซึ่ง อร ได้ต่อสู้อยู่ในลีกแดนปลาดิบเป็นเวลาถึง 3 ฤดูกาลด้วยกัน และแสดงศักยภาพได้ยอดเยี่ยมมาโดยตลอดกับสโมสร เจที มาร์เวลลัส เพราะตอนนั้นเธอสามารถช่วยทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุด หรือ วี.ลีก ได้สำเร็จ และต่อมายังพาทีมจบเป็นอันดับที่ 4 ใน วี.ลีก ฤดูกาล 2017 อีกด้วย แถมค่าเหนื่อยของ อร ก็บอกว่ากันมากถึง 8 หลักเลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงบอกได้เต็มปากว่าเจ้าตัวประสบความสำเร็จมาก ๆ ในประเทศญี่ปุ่นทั้งเรื่องค่าจ้างรวมถึงผลงานต่าง ๆ ที่แสดงให้ทุก ๆ คนเห็น
จากจุดเริ่มต้นจนเดินทางมาถึงตรงนี้ต้องบอกเลยว่า อรอุมา สิทธิรักษ์ คือนักตบลูกยางที่มีคุณภาพสูง เป็นกำลังสำคัญต่อทั้งสโมสร และทีมชาติยุค 7 เซียน และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติไทย โดยเธอมีรางวัลการันตีมากมาย เคยได้รับรางวัล MVP หรือผู้เล่นทรงคุณค่ากับการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชีย 2009 ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเราสามารถคว้าแชมป์มาได้สำเร็จเป็นครั้งแรกอีกด้วย และในปัจจุบันเจ้าตัวยังคงโลดแล่นอยู่ในวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเธอก็อยากให้ตามเชียร์กันต่อไปเรื่อย ๆ นะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ เปิดประวัติ อรอุมา สิทธิรักษ์ หัวเสาตัวเก่งของ 7 เซียน เราหวังว่าบทความนี้น่าจะถูกใจแฟน ๆ วอลเลย์บอลชาวไทยกันไม่มากก็น้อย อีกทั้งเด็ก ๆ รุ่นใหม่ที่ไม่ทันยุค 7 เซียนซึ่งตอนนั้น อร กำลังรุ่งเรื่องในอาชีพนักตบก็จะได้ทราบถึงความเก่งกาจของเธอมากยิ่งขึ้น ได้รู้จักกับความเป็นมาของไอดอลตั้งแต่ในอดีต ได้เห็นว่ากว่าที่เธอจะเติบโตจนประสบความสำเร็จในวงการกีฬานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ดังนั้นหากน้อง ๆ คนไหนกำลังมีความฝันอยากเป็นนักวอลเลย์บอล และมีไอดอลคือ อรอุมา สิทธิรักษ์ เป็นตัวอย่าง ก็จงฝึกซ้อม พยามทำมันให้เต็มที่ ท้อได้แต่อย่าถอย และเมื่อได้รับโอกาสก็จงคว้ามันเอาไว้ให้แน่น ๆ แล้วจะไม่เสียใจภายหลังแน่นอน